CAC ย่อมาจาก Customer Acquisition Cost คือต้นทุนที่ผ่านการคำนวณและได้มาซึ่งลูกค้าใหม่ 1 คน ซึ่งคิดจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดและค่าใช้จ่ายทางการขาย ที่เป็นงบประมาณสำหรับการหาลูกค้าที่นิยมคำนวณในรูปแบบรายเดือน หรือรายปี Customer Acquisition Cost จะประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ครอบคลุมทั้งค่าจ้างและงบประมาณ ทั้งค่าโฆษณา เงินเดือนพนักงาน ค่าวัสดุ เพื่อให้เราจัดสรรงบประมาณได้
ทำไมเราถึงต้องทำความรู้จัก Customer Acquisition Cost ?
ในการทำการตลาด การคำนวณหาค่าต่าง ๆ มีมากมาย รวมไปถึง Customer Acquistion Cost ด้วยเช่นกัน เพราะข้อมูลขนาดใหญ่ในบริษัทหรือองค์กร เป็นคลังสำคัญในการที่เราจะเจาะหาข้อผิดพลาด และผลลัพธ์หรือแนวโน้มในการพัฒนาบริษัทได้ ทำให้เราสามารถจัดสรรทรัพยากรในการลงทุนทางการตลาดได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถทำ Customer Acquisition Plan คือการวางแผนการจัดหาลูกค้าให้สมบูรณ์ ควบคุมได้ ไม่ขาดทุน
ซึ่ง CAC คือค่าที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบได้ว่าต้นทุนที่ลงทุนไปในงานด้านการตลาด ได้รับผลกำไรมากน้อยแค่ไหน ทำให้บริษัทจะคอยควบคุมและกำหนดช่องทางในการทำการตลาด หรือโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นแบบออนไลน์โซเชียลมีเดีย หรือป้ายในการเพิ่ม Awareness ได้คุ้มค่า Customer Acquisition Cost จะคอยช่วยนำค่าเหล่านี้มาปรับปรุงแนวทางการทำกำไร ด้วยมูลค่าที่เสียไปต่อลูกค้า 1 รายจากการทำ Digital Marketing ที่ใช้ต้นทุนไม่สูง
ธุรกิจที่มีการใช้ Customer Acquisition Cost คือธุรกิจอะไรบ้าง?
ร้านค้าอีคอมเมิร์ซ
ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มร้านขายสินค้าเฉพาะ หรือร้านขายสินค้าทั่วไป Customer Acquisition Cost จะต้องมีการคำนวณในทุกไตรมาส เพื่อดูผลประกอบการ จากการที่ทำโฆษณาในตัวสินค้า หรือแพลตฟอร์มแบบเฉพาะเจาะจง ช่วยเพิ่มการสั่งซื้อใหม่ได้เท่าไหร่ Customer Acquisition Cost หรือ CAC มีค่าเท่ากับกี่บาท แต่ต้องมาดูเพิ่มว่า Customer Lifetime Value สอดคล้องหรือไม่
เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ เก็บข้อมูลจากร้านสาขา
ในกรณีที่เราเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ จะรู้ว่าองค์ประกอบของการบริหาร จะมีส่วนของการบริหารจัดการลูกค้า เพื่อกระตุ้นแฟรนไชส์ให้มีการรับรู้ และส่งเสริมยอดขายในแต่ละส่วน งบการตลาดก็จะต้องมีความสอดคล้องและมีผลลัพธ์ที่ชัดเจน จะใช้ Customer Acquisition Cost เก็บผลลัพธ์จากแต่ละร้านเพื่อให้เห็นภาพรวมได้
บริการในด้านซอฟต์แวร์ CRM
ผลชี้วัดด้านบริการเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่จำเป็นต่อการดูผลประกอบการ เพราะ Customer Acquisition Cost หรือ CAC คือตัวชี้วัดที่ชัดเจน หากแต่ปัจจัยของบริการด้านนี้มีมากมาย เช่นการทำ SEO ที่ไม่ได้แสดงผลลัพธ์ในทันที การคำนวณ CAC แบบรายปี ก็จะทำให้เห็นภาพมากขึ้น และเลือกลงทุนได้ ว่าควรลงทุนในด้านใดต่อ
กิจการเจ้าของคนเดียว
ยิ่งเห็นผลลัพธ์ชัดเจน หากเราเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือกิจการเล็ก ๆ การเริ่มต้นทำการตลาด และจะมีการขยายกิจการต่อไป จำเป็นต้องอ้างอิงและวัดผลด้วย Customer Acquistion Cost เป็นอย่างมาก เพราะจำให้การเดินแผนการส่งเสริมการขาย เป็นไปได้ชัดเจนมากขึ้น สอดรับกับการทำงบการตลาดที่รัดกุม และไม่บานปลายในแต่ละรูปแบบที่ทำ คำนวณข้อมูลการตลาดอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของการนำ Customer Acquisition Cost มาใช้งานในองค์กรและภาคธุรกิจ
ปรับปรุงแนวทางในการทำกำไร
เมื่อเราทราบถึงค่า CAC หรือ Customer Acquisition Cost โดยอัตราการทำกำไรต่อคนได้เท่าใด เราก็จะสามารถลดหรือปรับปรุงแนวทางในการลงทุนทางการตลาดได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจที่ลงทุนกับ Event Marketing ได้ผลตอบรับดี แต่ได้ผลกำไรพอประมาณ แต่กินงบการตลาดมากเกินไป การเลือกลงทุนในรูปแบบอื่น ที่ใช้ต้นทุนน้อย และได้ผลตอบรับดีกว่า จะเป็นทางเลือกมากขึ้น เช่นการส่งเสริมการขายด้วย CRM
จัดการลูกค้าสัมพันธ์ CRM ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Customer Acquisition Cost คือตัวชี้วัดต้นทุนการตลาดเฉลี่ยลูกค้า 1 คน CRM ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่สามารถนำ CAC มาอ้างอิงและช่วยส่งเสริมการลงทุนในการจัดการตลาดผ่าน CRM ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามลูกค้า วิเคราะห์พฤติกรรม การส่งเสริมการขายด้วยการส่งสิทธิประโยชน์กับลูกค้า เพิ่มเทคนิคการดึงดูดด้วยการขายรูปแบบต่าง ๆ Customer Acquisition Cost จะส่งเสริมการตลาดได้ ว่าแบบไหนได้ผลดี
ทำให้เป้าหมายและวิสัยทัศน์ของธุรกิจชัดเจนขึ้น
เมื่อเราใช้ Customer Acquisition Cost จะทำให้เราเข้าใจบริบท และเข้าใจความต้องการที่ตอบสนองต่อกำไรขององค์กรได้มากขึ้น ทั้งวิธีการเพิ่ม Conversion Rate เจาะกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน และมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องชัดเจนมากขึ้นส่งเสริมให้วิธีการ Customer Acquisition Strategy คือกลยุทธ์สำหรับการหาลูกค้า ทำได้ดี ไม่เสียต้นทุน เพราะมีข้อมูล และแนวโน้มผ่านการคำนวณ CAC มาแล้วเอามาใช้เป็นฐานในการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
องค์ประกอบที่สำคัญของ Customer Acquisition Cost
สิ่งสำคัญในการคำนวณ Customer Acquisition Cost คือเราจะต้องเข้าใจก่อนว่า เราจะเอางบประมาณส่วนของการตลาดมาคำนวณแบบไหน ตามสูตรเพื่อให้ได้ Cost Per Acquisition คือ (ค่าใช้จ่ายการตลาด + ค่าใช้จ่ายด้านการขาย) ÷ จำนวนลูกค้าใหม่ และอ้างอิงจากส่วนของ
- ค่าใช้จ่ายในทีมที่ทำการตลาด และครีเอทีฟ
- ต้นทุนด้านเทคนิค
- ต้นทุนกระบวนการผลิต
- ค่าโฆษณา
- ค่าต้นทุนของทีมขาย
- ค่าใช้จ่ายของสิ่งพิมพ์
- ค่าเสื่อมสภาพ หรือบำรุงรักษาสินค้า
สรุป Customer Acquisition Cost ปัจจัยสำคัญที่ช่วยต่อยอดทางการตลาด
CAC คือต้นทุนทางการตลาดและการขายที่ได้มาซึ่งลูกค้า 1 คน โดยค่านี้ ช่วยให้เราสามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างตรงจุด Customer Acquisition Cost ยังสามารถปรับปรุงการขายให้มีประสิทธิภาพ แต่การจะทำให้องค์กร หรือบริษัทได้กำไรมากขึ้นจริง จำเป็นต้องอ้างอิง และหาแนวทางเกี่ยวกับการตลาดที่มากกว่าแค่ผลลัพธ์ CAC ดังนั้น การหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดที่นำ CAC ไปใช้ประโยชน์สูงสุด ก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ธุรกิจขยายได้
