การทำประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต ล้วนมีจุดประสงค์หลักคือสร้างความมั่นคง และลดความเสี่ยงทางการเงิน ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ประกันชั้น 2+ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าของรถที่ต้องการความคุ้มครอง
ประกันชั้น 2+ เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้รถที่ต้องการความคุ้มครองคุ้มค่า ในราคาประหยัด คุ้มครองความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้ ลดภาระค่าใช้จ่าย สร้างความอบอุ่นใจ ช่วยวางแผนการเงินในระยะยาว อยากรู้ว่าประกันภัยรถยนต์ 2+ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่ ไปดูกันเลย
รู้จักประกันรถยนต์ชั้น 2+ และความคุ้มครองที่จะได้รับ
ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยประกันน้อยกว่า คุ้มครองทั้งรถผู้เอาประกันและคู่กรณี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในราคาประหยัด มีประสบการณ์การขับขี่ ไม่ชนบ่อย ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้างไปดูกัน
ประกันภัยรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง
- ประกันชั้น 2+ คุ้มครองทั้งรถเราและรถของคู่กรณี หากเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีชัดเจน
- ครอบคลุมรถของผู้เอาประกันที่มีคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้และรถหาย เป็นจุดเด่นที่ประกันชั้น 3 ไม่มี
- คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินคู่กรณี ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ผิด
- ให้ความคุ้มครองชีวิตและร่างกายของคู่กรณี ตามวงเงินประกัน กรณีเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
- มีวงเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดคดีความจากอุบัติเหตุ
ประกันชั้น 2+ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง
- ประกันภัยรถยนต์ 2+ ไม่คุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนต้นไม้ กำแพง เสาไฟฟ้า ฟุตบาท หรือชนเอง โดยไม่มีรถอีกคันเกี่ยวข้อง
- กรณีชนแล้วหนี หากคู่กรณีหลบหนี และไม่สามารถระบุตัวตนได้ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
- ใช้รถผิดประเภท เช่น ใช้รถแข่ง ใช้รถจ้าง หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง โดยไม่แจ้งบริษัทประกัน
- ขับขี่ที่ผิดกฎหมาย เช่น เมาแล้วขับ ไม่มีใบขับขี่ หรือขับรถเร็วกว่าที่กำหนด
- ดัดแปลงรถโดยไม่แจ้งบริษัทประกัน หากรถถูกดัดแปลง (ติดแก๊ส เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนช่วงล่าง ฯลฯ) แล้วไม่แจ้งบริษัท อาจถูกปฏิเสธการเคลม
รถเป็นรอยเล็ก ๆ สามารถเคลมประกันชั้น 2+ได้ไหม?
ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองรถของเราทั้งความเสียหายต่อตัวรถกรณีรถชนรถที่สามารถระบุคู่กรณีได้ รถสูญหาย หรือไฟไหม้ นอกเหนือจากเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ไม่เป็นไปตามกรมธรรม์ประกันรถยนต์ 2+ ระบุเอาไว้ ผู้เอาประกันจะต้องดำเนินการซ่อมรถและเสียค่าใช้จ่ายเอง
ในกรณีที่รถเป็นรอยเล็ก ๆ สามารถเคลมประกันชั้น 2+ ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี หากเป็นรอยจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีชัดเจน (เช่น รถชนรถ และทราบว่าใครเป็นคู่กรณี) มีหลักฐาน เช่น ภาพถ่าย, ใบแจ้งความ หรือคู่กรณียอมรับผิด กรณีนี้ประกัน 2+ จะให้ความคุ้มครองรถยนต์ของคุณ แต่หากเป็นรอยจากอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยชนกำแพง โดนขูดรถแล้วหาคนทำไม่ได้ โดนชนแล้วหนี ไม่อาจเคลมประกันได้
เปรียบเทียบประกันชั้น 2+ กับประกันชั้น 1 ทำไมเลือกประกันรถยนต์ 2+ ดีกว่า?
การเลือกประกันรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานไม่ถึง 10 ปี ระหว่างประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันชั้น 2+ นั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของรถในด้านความคุ้มครองและงบประมาณที่พร้อมจะจ่ายในแต่ละปี เรามาดูการเปรียบเทียบของทั้งสองประเภทกันชัด ๆ ว่าใครดีกว่ากัน
ความคุ้มครอง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 มักถูกแนะนำให้ซื้อสำหรับรถคันใหม่ที่ครอบคลุมความคุ้มครองที่ครบถ้วนและหลากหลาย นอกจากจะคุ้มครองรถของผู้เอาประกันเองแล้ว ยังครอบคลุมถึงอุบัติเหตุจากทุกกรณี ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม
ประกันชั้น 2+ มีความคุ้มครองที่เหมือนกันกับประกันชั้น 1 เพียงแค่ความคุ้มครองความเสียหายของรถแบบมีคู่กรณี และเมื่อรถยนต์สูญหายหรือถูกไฟไหม้เท่านั้น ประกัน 2+ จึงมีราคาถูกกว่านั่นเอง
เบี้ยประกัน
ประกันชั้น 2+ เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมพอสมควร แต่ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันที่สูงเกินไป เนื่องจากค่าเบี้ยประกันชั้น 2+ ราคาถูกกว่า แต่ก็มาพร้อมความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 มากที่สุด หากคุณต้องการความคุ้มครองกรณีมีคู่กรณีเลือกประกัน 2+ ดีกว่า
รถที่ทำประกัน
บริษัททำประกันชั้น 2+ บางแห่งรับอายุรถถึง 20 ปี หากคุณต้องการความคุ้มครองที่ครบถ้วน มีคู่กรณี หรืออุบัติเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ เลือกประกันชั้น 1 ดีที่สุด แต่หากคุณต้องการประหยัด ไม่ใช่รถใหม่ป้ายแดง ประกันรถยนต์ 2+ ราคาถูกก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า คุ้มครองได้เกือบทุกด้าน
เลือกทำประกันชั้น 2+ ที่ไหนดี?
การเลือกซื้อประกันชั้น 2+ ควรพิจารณาให้รอบด้าน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม ตรงกับความต้องการ และคุ้มค่าที่สุด ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดีมีดังนี้
- ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน
เลือกบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานจริง ตรวจสอบชื่อเสียงบริษัท ประวัติการดำเนินงาน และรีวิวจากลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองที่ครบถ้วนตามเงื่อนไขประกันชั้น 2+ ไม่เสียเงินเปล่า
- ความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการเคลม
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ความรวดเร็วในการติดต่อและประงานเป็นสิ่งสำคัญ เลือกบริษัทที่มีบริการแจ้งเคลมสะดวก เช่น ผ่านแอปพลิเคชัน หรือมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบติดตามสถานะการเคลมได้แบบเรียลไทม์
- ศูนย์ซ่อมและอู่ในเครือที่ได้มาตรฐาน
ควรเลือกบริษัทที่มีเครือข่ายอู่ซ่อมรถคุณภาพดี หรือศูนย์บริการมาตรฐานครอบคลุมพื้นที่ที่คุณใช้งาน เพื่อความสะดวกในการนำรถเข้าซ่อม และมั่นใจในคุณภาพของการซ่อมแซม
- เปรียบเทียบอัตราเบี้ยประกันชั้น 2+ จากบริษัทต่าง ๆ
ราคาประกัน 2+ โดยส่วนใหญ่แล้วเริ่มต้นที่ประมาณหลักพันต้น ๆ เป็นต้นไป ซึ่งบางแห่งอาจมีสิทธิพิเศษในการชำระเบี้ยประกันเพิ่มเติมเพื่อความสะดวก เช่น ผ่อนได้ 0% สูงสุด 6 เดือน เป็นต้น แนะนำว่าควรเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
ประกัน 2+ ราคาประหยัด อยากได้ความคุ้มครองที่มากขึ้นเลือกประกันชั้น 2+
ประกันชั้น 2+ เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้รถที่ต้องการประกันรถยนต์ 2+ ราคาประหยัด นอกจากจะคุ้มครองคู่กรณีแล้ว ยังครอบคลุมรถเราด้วย ในกรณีชนแบบมีคู่กรณี เหมาะอย่างยิ่งกับรถที่หมดประกันป้ายแดง หรือรถที่มีอายุใช้งานมาระยะหนึ่งแต่ยังต้องการความอุ่นใจพร้อมขับขี่ทุกการเดินทาง
