
ดริปวิตามินผิว หนึ่งในโปรแกรมความงามยอดฮิตที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส มีออร่ายิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมักต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการเข้ารับบริการ แล้วการดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล? ควรดริปบ่อยแค่ไหน? หรือมีเคล็ดลับอะไรบ้างที่จะช่วยให้ผิวขาวใสอย่างยาวนาน? คำตอบทั้งหมดนี้รอคุณอยู่ในบทความนี้
ดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล ช่วยให้ผิวใสจริงไหม?
การดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผลนั้นจำนวนครั้งอาจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์ผู้ชำนาญการเบื้องต้น แต่โดยปกติแล้วการดริปวิตามินผิวจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ผิวมีความนุ่มลื่นมากขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับบริการ และเมื่อเข้ารับบริการต่อเนื่องก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณที่มีความเปล่งปลั่งและกระจ่างใสมากขึ้นกว่าเดิม
โดยทั่วไป หลังดริป 3-5 ครั้ง จะเห็นผลเรื่องความนุ่มลื่น ชุ่มชื่นและดูเปล่งปลังขึ้น ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ดูสดชื่น และเมื่อดริปต่อเนื่อง 6-10 ครั้งขึ้นไป ผิวจะดูกระจ่างใส มีออร่า ผิวเนียนเด้ง ไม่หมองคล้ำ ลดความเหลืองของผิวได้
ดริปวิตามินผิวยังไงให้เห็นผลทันที?
นอกจากคำถามที่ว่าดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผลแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็อยากจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วมีวิธีไหนที่จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์การดริปผิวแบบทันทีหรือไม่ ขอแนะนำว่าหากต้องการเห็นผลลัพธ์การดริปผิวที่ชัดเจน ควรเข้ารับบริการต่อเนื่องอย่างน้อย 3-6 ครั้งขึ้นไป หรือทุก ๆ 1 สัปดาห์ในช่วงแรก พร้อมกับดูแลผิวหลังดริปวิตามินอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วย เช่น การทาครีมกันแดดพร้อมเลี่ยงสัมผัสแสงแดดโดยตรง ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ
ควรรู้ก่อนดริปผิว! ข้อดี-ข้อเสียของการดริปวิตามินผิว

ดริปผิวคือหัตถการความงามที่เน้นใช้วิตามินในการฟื้นบำรุงผิวให้กลับมากระจ่างใสแลดูสุขภาพดี โดยการดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผลนั้นแนะนำว่าควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งใครที่กำลังลังเลว่าจะดริปผิวดีไหม? มาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของโปรแกรมนี้มาให้ดูกันชัด ๆ ดังนี้
ข้อดี
- การดริปผิวเห็นผลไวกว่าการรับประทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การดูแลผิวที่รวดเร็วและชัดเจน
- การดริปวิตามินผิวใช้เวลาไม่นาน เห็นการเปลี่ยนแปลงในเวลาสั้นๆ เหมาะกับคนที่รีบใช้ผิว หรืออยากบำรุงผิวก่อนออกงานสำคัญ
- มีส่วนช่วยจัดการปัญหาผิวหมองคล้ำและโทรมให้มีความกระจ่างใสและชุ่มชื้นนุ่มลื่นมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิว ผิวแข็งแรงแลดูสุขภาพดี
- เป็นการเติมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
- บำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ผิวแข็งแรง ฟื้นตัวจากมลภาวะได้ไว
ข้อเสีย
- จำเป็นต้องเข้ารับบริการต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- หลังทำอาจมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่ดริปวิตามิน แต่อาการจะดีขึ้นใน 1-7 วัน แล้วแต่บุคคล
- หลังดริปวิตามิน อาจทำให้ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น หรือมีกลิ่นวิตามินปนกับกลิ่นปัสสาวะ เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายขับวิตามินส่วนเกินออกมา กลิ่นจะค่อยๆ หายไปเอง
ดริปวิตามินผิว ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
ถ้าไม่แน่ใจว่าจะต้องดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล แนะนำทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ครั้งขึ้นไปจะดีที่สุด ก็จะช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งมีออร่าอย่างเห็นได้ชัด โดยผลลัพธ์ของดริปผิวอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด เช่น หมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA++++ ขึ้นไป เลี่ยงการโดนแดดโดยตรง ทานอาหารที่มีประโยชน์
อย่างไรก็ตามบางรีวิวฉีดวิตามินผิว ก็มักเจอะเจอกับปัญหาดริปผิวแล้วแต่ผิวยังหมองอยู่ การที่ผิวหมอง ไม่มีออร่าไม่เกี่ยวกับการหยุดดริปผิวหรือดริปผิวไม่ต่อเนื่องแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะการที่ผิวสัมผัสกับแดดแรง ๆ ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวดูหมองคล้ำขึ้นได้ ฉะนั้นหากต้องการให้ผิวดูกระจ่างใสสุขภาพดียาวนาน ควรดูแลตัวเองหลังฉีดผิวให้เหมาะสมและเข้ารับบริการต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์จะดีที่สุด
หลังดริปวิตามินผิว ควรดูแลตัวเองอย่างไรให้ผิวสวยนาน
เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวจะดูเปลั่งปลั่งกระจ่างใสยาวนาน นอกจากจะดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผลตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว ควรศึกษาวิธีดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินผิวร่วมด้วย โดยทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- หลังดริปวิตามินผิวอาจทำให้สีปัสสาวะเข้มขึ้นกว่าปกติ หรือมีกลิ่นวิตามินปะปนออกมา ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะเป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะขับวิตามินส่วนเกินออกมา แล้วกลิ่นจะค่อย ๆ หายไปเอง หรือสีปัสสาวะจะกลับมามีสีที่ปกติเหมือนเดิม
- หลังฉีดผิว บริเวณที่ทำอาจมีรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นได้ ซึ่งถือเป็นอาการปกติและหายได้เองภายใน 1-7 วันแล้วแต่บุคคล
- หมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันผิวสูงตั้งแต่ SPF50+ PA++++ ขึ้นไป และถ้าต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือสัมผัสแสงแดดโดยตรง ควรทาครีมกันแดดเพิ่มระหว่างวันด้วย
- หมั่นทำความสะอาดผิว สครับผิว ทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หรือช่วยเสริมการบำรุงผิวให้กระจ่างใสเปล่งปลั่งมากขึ้น
- ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อคงสภาพผิวที่เนียนนุ่มชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เนื่องจากมีส่วนทำให้ผิวแห้งกร้านและผิวแก่เร็ว
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวอย่างเต็มที่
ดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล เคล็ดลับดูแลผิวให้ขาวใสมีออร่า
พอจะหายสงสัยกันแล้วใช่ไหม? ว่าจริง ๆ แล้วควรดริปวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล หรือต้องดริปวิตามินบ่อยแค่ไหน ซึ่งตามคำแนะนำของแพทย์คือควรเข้ารับบริการทุก ๆ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และทำติดต่อกันอย่างน้อย 3-5 ครั้งขึ้นไป ควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินผิวเพื่อคงสภาพผิวกระจ่างใสเปล่งปลั่งยาวนานและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน