AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่หลายๆท่านได้รู้จักกันดี ซึ่งในปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ทั้งในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักร กระบวนการการทำงานของสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งความบันเทิง เช่น ซีรีส์ เกม ภาพยนตร์ เป็นต้นที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวัน ในบทความนี้จะช่วยให้ท่านได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ AI ได้มากยิ่งขึ้น เพื่อสามารถนำ AI มาใช้ประโยชน์ต่อตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
สารบัญบทความ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ AI และ AI คืออะไร
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยชุดคำสั่ง Algorithm จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยฟังก์ชันที่ถูกป้อนข้อมูลลงไป ตัว AI ยังสามารถมีกระบวนความคิดต่าง ๆ กระบวนการทำงานเหมือนมนุษย์ รวมทั้งสามารถกระทำการเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ได้อีกด้วย โดยมีพฤติกรรมที่สามารถลอกเลียนได้ ดังเช่น การคำนวณการวางแผนต่าง ๆ ทั้งการแก้ไขปัญหา กระบวนการเรียนรู้ เป็นต้น ในบางครั้ง AI ก็ยังสามารถช่วยคิดหาคำตอบทั้งเป็นตัวช่วยในการประมวลผล การวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วกว่าการทำงานของสมองเรา เพียงแต่ AI ไม่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ – ประสาทสัมผัสของมนุษย์เราได้นั้นเอง
หลักการกระบวนการทำงานของ AI จะกระทำด้วยการรับข้อมูลที่ได้มา เพื่อนำมาวิเคราะห์พร้อมกับประมวลผลลัพธ์ให้ได้คำตอบที่มีประสิทธิภาพ ด้วยข้อความ คำพูด รวมถึงการกระทำอื่น ๆ ที่สื่อสารตอบกลับคำสั่งที่ได้รับกลับมาให้มนุษย์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งคำตอบที่ได้รับจะเป็นประโยชน์ต่อเราโดยตรงมากที่สุด AI ยังสามารถวิเคราะห์พร้อมทั้งคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในภายภาคหน้าได้ โดยกระบวนการทำงานของ AI จะเป็นการทำงานด้วยระบบ Algorithm ที่มีชุดคำสั่งจากโปรแกรมที่สร้างขึ้นมา จึงจะมีกระบวนการที่สามารถเน้นการเรียนรู้ได้ ดังนี้
- Learning: กระบวนการการเรียนรู้ที่เน้นในการรับข้อมูลต่าง ๆ การสร้างข้อมูลเพื่อสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลแล้วนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริง จึงเป็นที่มาของ Algorithms ที่เป็นกระบวนการแก้ไขปัญหาที่สามารถอธิบายข้อมูลในการแก้ไขได้อย่างชัดเจนตรงกับความต้องการได้ดีที่สุด
- Reasoning: กระบวนการใช้เหตุผลจากการตัดใจจาก Algorithms ที่ได้คำนวณผลลัพธ์ที่เหมาะสมตรงจุดที่ต้องการได้
- Self-correction: กระบวนการแก้ไขข้อผิดพลาด ซึ่ง AI จะได้รับชุดข้อมูลที่สามารถออกแบบ ปรับแต่งกระบวนการวิเคราะห์ให้แยกข้อมูลในแต่ละประเด็นออกมา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพแม่นยำที่สุด
- Creativity : กระบวนการความคิดสร้างสรรค์ที่ช่วยให้การใช้งานเครือข่าย ทั้งด้านประสาทเทียม สถิติ เทคนิคในด้านอื่น ๆ ได้สร้างความคิดชุดใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบโจทย์ต่อการทำงานได้มากที่สุดนั้นเอง
องค์ประกอบของ AI (Artificial Intelligence) มีอะไรบ้าง
กระบวนการทำงานของ AI หรือที่เรารู้จักในรูปแบบปัญญาประดิษฐ์ จะมีองค์ประกอบที่สำคัญที่จะช่วยให้ตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์ด้วยชุดคำสั่งโปรแกรมที่ช่วยแก้ไขได้อย่างตรงจุด จะประกอบไปด้วย
1. Machine Learning
Machine Learning เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการเรียนรู้ จึงเปรียบเสมือนกับมันสมองของ AI ด้วยการใช้ความสร้างสรรค์ที่ถูกมนุษย์เราเขียนชุดคำสั่ง / โปรแกรมที่กำหนดให้ AI ได้นำข้อมูลที่เหลือมาวิเคราะห์จนเกิดการเรียนรู้ ทั้งยังกระตุ้นข้อมูลต่าง ๆ ให้จดจำสิ่งเหล่านั้นไว้ในมันสมองของ AI และส่งข้อมูลให้แก่มนุษย์ที่ป้อนคำสั่งในรูปแบบตัวเลข บางครั้งมาในรูปแบบ Code ที่ถูกป้อนข้อมูลนั้นเอง
2. Deep Learning
Deep Learning เป็นเหมือนกับแบบจำลองโครงข่ายประสาทเทียมหลากหลายชั้นที่มีลักษณะคล้ายสมองของมนุษย์ ซึ่งเหมาะกับ Machine Learning ที่มีจุดเป้าหมายในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับมาให้สามารถค้นหาคำตอบ ทั้งยังสามารถตัดสินใจได้เองตามข้อมูลที่ Algorithm ได้กำหนดไว้นั้นเอง
3. Robotics
Robotic system เป็นหุ่นยนต์ / เครื่องจักรที่สร้างขึ้นมา โดยมีความสามารถที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติไม่ต้องถูกควบคุมด้วยน้ำมือมนุษย์ แต่จะเป็นกระบวนการทำงานจากชุดคำสั่งที่ได้ป้อนข้อมูลลงในโปรแกรมที่จัดเตรียมไว้ จึงเป็นการทำงานที่มาจากคำสั่งในรูปแบบเดิม รวมถึงชุดคำสั่งที่มีความซับซ้อนด้วยการปรับเปลี่ยนโปรแกรมให้สามารถกระทำการได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ทั้งมีความยืดหยุ่น บางแห่งได้ตั้งโปรแกรมที่ช่วยให้ AI ได้ตัดสินใจกระทำเองอีกด้วย
4. Natural Language Processing (NLP)
Natural Language Processing (NLP) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำงานของคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านของกระบวนการคิด วิเคราะห์ การตีความ การจัดการข้อมูล รวมถึงกระบวนการที่ช่วยให้สามารถเข้าใจภาษามนุษย์ได้ และสามารถตอบโต้ข้อความกับมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ได้ เช่น ข้อความ อีเมล เสียงเป็นต้น
5. Computer Vision
Computer Vision เป็นอีกหนึ่งชุดคำสั่งของโปรแกรมที่ AI มีการวิเคราะห์ โดยมีโครงสร้างคล้ายกับดวงตาที่เปรียบเหมือนอวัยวะของมนุษย์ เพียงแต่เป็นดวงตาของคอมพิวเตอร์ของระบบ จึงทำให้ AI เหล่านี้สามารถจดจำ มีความเข้าใจ รวมถึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์รูปภาพได้อย่างเชี่ยวชาญและชาญฉลาดนั้นเอง
ประโยชน์ของการนำ AI มาใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง
การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในปัจจุบันที่เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกสรรค์สร้างให้สามารถมีกระบวนการการทำงานได้เหมือนมนุษย์ ด้วยหลักการทำงาน กระบวนการทำงานต่าง ๆ ของ AI นี้เองที่ช่วยลดการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อน จนเกิดผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดความผิดพลาดของมนุษย์
ระบบการทำงานของ AI จะเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถช่วยให้คำแนะนำการทำงาน สามารถช่วยคำนวณให้มนุษย์ได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ลดความผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์ได้มากขึ้น
ลดความเสี่ยงในงานที่เป็นอันตราย
เมื่อโปรแกรมที่สามารถสั่งงานด้วย AI ได้เข้ามารับหน้าที่แทนการทำงานของมนุษย์ การทำงานด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติในรูปแบบต่างๆ จึงช่วยให้มนุษย์สามารถได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเองในอนาคตได้ ทั้งยังช่วยวิเคราะห์ถึงรูปแบบการทำงานที่ปลอดภัยให้กับมนุษย์ได้อีกด้วย
ประมวลผลข้อมูล Big Data
ด้วยระบบข้อมูลที่หลากหลายซึ่งถูกเขียนขึ้นมาจากโปรแกรมที่มนุษย์สร้างขึ้น จึงทำให้กระบวนการประมวลผลต่าง ๆ ของ AI จึงมีความสมบูรณ์ มีความสามารถในการคาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจาก Big Data ที่สะสมมาอย่างยาวนาน จนสามารถช่วยให้ท่านสร้างสรรค์งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นเอง
ใช้งานได้ตลอดเวลา
การทำงานของระบบ AI สามารถช่วยลดกระทำงานของมนุษย์ได้ ทั้งยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับและพร้อมตอบสนองต่อความต้องการในรูปแบบเรียลไทม์ เพื่อให้กระบวนการทำงานได้สามารถขับเคลื่อนได้ตลอดเวลานั้นเอง
ปรับปรุงกระบวนการและขั้นตอนการทำงาน
ด้วยกระบวนการทำงานของระบบ AI จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูล นำทรัพยากรที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งยังช่วยในกระบวนการขั้นตอนการทำงาน ลดค่าใช้จ่าย ช่วยให้ระบบการทำงานที่เคยซับซ้อนได้มีรูปแบบการงานที่เอื้ออำนวยมากยิ่งขึ้น
บทสรุปของ AI
จะเห็นได้ว่าโปรแกรมที่ได้ถูกใช้งานด้วยระบบ AI จะมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ทั้งในภาคธุรกิจ การอุตสาหกรรม โรงพยาบาล ที่ช่วยให้กระบวนการทำงานของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยคิด วิเคราะห์ฐานข้อมูลที่เคยมีให้สามารถตอบรับความต้องการในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยลดปัญหาการทำงานที่ผิดพลาดที่อาจคาดไม่ถึงได้อย่างแม่นยำมากขึ้น