อยากมีบ้านเป็นของตนเองสักหลังแต่พอเห็นราคาบ้านในปัจจุบันแล้วก็ทำเอาท้อ เพราะมีรายจ่ายเยอะทำให้เก็บเงินซื้อบ้านไม่ไหว หรือว่าเงินเดือนน้อยจนไม่พอซื้อบ้าน หากมีความคิดเหล่านี้ให้หยุดไว้ก่อน! เพราะถ้าเก็บเงินซื้อบ้านอย่างถูกวิธีก็จะทำให้มีเงินเก็บซื้อบ้านได้แม้ว่าจะมีรายจ่ายเยอะ แต่แล้ววิธีเก็บเงินสร้างบ้านมีอะไรบ้าง สามารถเช็กและทำตามวิธีที่จะกล่าวต่อไปนี้ได้เลย
1. เลือกประเภทบ้านที่อยากซื้ออยู่อาศัย
เมื่อตัดสินใจที่จะเก็บเงินซื้อบ้านแล้วแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? วิธีเก็บเงินซื้อบ้านอย่างแรกที่ควรทำ คือ เลือกบ้านที่ต้องการอยู่อาศัย โดยการซื้อบ้านในแต่ละครั้งจะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ทำเลที่อยู่อาศัย รูปแบบและขนาดของบ้าน และสิ่งอำนวยสะดวกรอบที่อยู่อาศัย เพื่อจัดสรรงบเงินสำหรับดาวน์บ้านหรือซื้อบ้านตามความเหมาะสม
ทำเลที่ตั้งของบ้าน
ทำเลที่ตั้งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการเก็บเงินสร้างบ้านโดยตรง เพราะยิ่งบ้านที่ต้องการซื้ออยู่ในทำเลใกล้ใจกลางเมืองก็จะยิ่งมีราคาสูงขึ้น เท่ากับว่าจะต้องเก็บเงินซื้อบ้านมากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ถ้าต้องการซื้อบ้านทำเลที่อยู่ไกลจากตัวเมืองออกไปก็จะมีราคาถูกลง
รูปแบบและขนาดของบ้าน
ถ้าหากอยู่อาศัยคนเดียวหรือครอบครัวเล็ก ๆ และต้องการซื้อบ้านที่มีขนาดเล็ก เช่น บ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านทาวน์โฮม ก็จะมีราคาบ้านเริ่มต้นไม่สูงมาก แต่ถ้าอยู่อาศัยเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ก็อาจจะต้องมองหาบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตาม เช่น บ้านแฝด บ้านเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบที่อยู่อาศัย
ในกรณีที่บริเวณรอบบ้านที่ซื้ออยู่ใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล สถานศึกษา หรือว่าอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า ทางด่วน ก็จะทำให้บ้านบริเวณนั้น ๆ ราคาสูง แต่ถ้าห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกออกมาก็จะทำให้บ้านมีราคาถูกลง
2. จดรายการรายรับรายจ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละเดือน
ก่อนที่จะเก็บเงินสร้างบ้านในแต่ละเดือน สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนทำขั้นตอนอื่น ๆ คือ จดบันทึกรายรับและรายจ่าย โดยจะต้องจดรายรับและรายจ่ายที่มีในแต่ละเดือนอย่างละเอียดชัดเจน เพื่อให้เห็นว่าในแต่ละเดือนได้รับเงินและมีการใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง
หากทำบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นประจำก็จะทำให้รู้พฤติกรรมการใช้เงินของตนเองว่าใช้เงินกับสิ่งใดเยอะเป็นพิเศษ และเมื่อทราบพฤติกรรมการใช้จ่ายแล้วก็สามารถนำข้อมูลที่ได้จากการสรุปบันทึกรายรับรายจ่ายมาประยุกต์ใช้ในการเก็บเงินซื้อบ้านได้ตามความเหมาะสม
3. จัดการเคลียร์หนี้สินที่มีให้หมด
ในกรณีที่มีหนี้สินอยู่ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินจากการศึกษาหรือหนี้สินจากการดำรงชีวิต ควรรีบปิดหนี้ที่มีอยู่ให้เร็วที่สุดเพราะถ้าปล่อยหนี้ทิ้งไว้จะทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจะทำให้เก็บเงินซื้อบ้านได้ช้าลง และยังมีโอกาสถูกฟ้อง ถูกยึดทรัพย์สินจากเจ้าหนี้ ทั้งยังเสียประวัติที่ดีทางการเงินกับทางธนาคารได้
สำหรับผู้ที่มองหาวิธีปลดหนี้ ในที่นี้สามารถทำได้ไม่ยาก โดยเริ่มต้นจากตรวจสอบรายรับรายจ่ายที่จำเป็นแต่ละเดือนก่อนแล้วนำเงินบางส่วนไปชำระหนี้ ซึ่งการชำระหนี้จะต้องจ่ายมากกว่ายอดชำระขั้นต่ำเพื่อให้ยอดหนี้ลดลง และค่อยเก็บเงินส่วนที่เหลือไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ในกรณีที่ชำระหนี้จนครบเรียบร้อยแล้วก็จะทำให้เก็บตังซื้อบ้านง่ายขึ้น
4. แบ่งเงินที่จำเป็นต้องใช้ออกมาก่อน
เพื่อไม่ให้เผลอใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น การแยกค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือนออกมาก่อนก็จะช่วยเก็บเงินซื้อบ้านได้ง่ายมากขึ้น แล้วค่าใช้จ่ายที่จำเป็นคืออะไร? ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น คือ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น ค่าอาหาร ค่าที่อยู่อาศัย ค่ายาประจำตัว(หากมี)
เมื่อหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละเดือนออกไป เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าช็อปปิ้ง ค่าเที่ยว ค่าใช้จ่ายในงานอดิเรก หรือค่าบริการต่าง ๆ อยู่ ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวนั้นล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ดังนั้นถ้าหากต้องการมีเงินเก็บสร้างบ้านมากขึ้นก็ควรลดหรือว่าเลิกซื้อเลิกใช้บริการเหล่านั้นชั่วคราว
5. ลด ละ เลิก ใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
หนึ่งในสาเหตุที่เป็นอุปสรรคทำให้หลาย ๆ คนที่ต้องการเก็บเงินซื้อบ้านไม่ไปถึงฝั่งฝันสักที คือ การใช้จ่ายซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น ถึงแม้ว่าจะแบ่งเงินที่จำเป็นต้องใช้แต่ละส่วนรวมถึงเงินเก็บไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็มักจะเผลอใช้เงินเก็บไปซื้อของที่ชอบหรือใช้บริการต่าง ๆ อยู่เสมอ ดังนั้นการลด ละ เลิก ซื้อของไม่จำเป็นจึงเป็นวิธีเก็บเงินสร้างบ้านวิธีหนึ่งที่จำเป็นต้องทำ
แม้ว่าการเก็บตังซื้อบ้านได้ในแต่ละเดือนเยอะเป็นเรื่องดี แต่ถ้าฝืนมากจนเกินไปก็จะทำให้รู้สึกทุกข์ใจแทนได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้สามารถแก้ได้โดยแบ่งเงินที่ได้ในแต่ละเดือนส่วนหนึ่งไปใช้จ่ายอย่างอิสระ โดยอาจจะแบ่งมาใช้เดือนละ 500-2,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับรายรับในแต่ละเดือน และเมื่อแบ่งออกมาแล้วก็ควรหักห้ามใจไม่ดึงเงินส่วนอื่นมาใช้อีก
6. ลดการใช้เงินไปกับของแพง
ข้อนี้จะต่างจากวิธีเก็บเงินซื้อบ้านข้อ 5 ที่ว่าลดการใช้จ่ายกับสิ่งของที่ไม่จำเป็นเล็กน้อย เพราะจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ต้องใช้ในแต่ละวันลง เช่น จากเดิมที่ซื้อข้าวกล่องหรือทานอาหารตามสั่งในวันที่ไปทำงาน ก็เปลี่ยนเป็นห่อข้าวไปทานที่ออฟฟิศแทน เพราะการทำอาหารไปเองสามารถคุมงบได้ง่าย ทั้งยังถูก อร่อย และดีต่อสุขภาพ
หรือกรณีเดินทางไปสถานที่ทำงานหรือทำธุระ หากปกติใช้บริการรถไฟฟ้าก็เปลี่ยนมาใช้รถโดยสารประจำทาง หรือปกติถ้าขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปสถานที่ที่อยู่ในระยะที่สามารถเดินได้ก็อาจจะเปลี่ยนมาเดินแทน ซึ่งการเดินก็จะช่วยประหยัดเงิน สามารถเก็บเงินซื้อบ้านมากขึ้น และยังช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นด้วย
7. เก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ
วิธีเก็บเงินซื้อบ้านที่ทุกคนจำเป็นต้องทำ คือ การเก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ เพราะในกรณีที่ต้องการซื้อบ้านแบบผ่อนจะต้องเก็บเงินซื้อบ้านไว้ก้อนหนึ่งไว้ใช้ดาวน์บ้าน และหลังจากเริ่มผ่อนบ้านแล้วก็ควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้ทุก ๆ เดือน
ในกรณีที่เก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ ก็จะมีเงินสำรองใช้ในยามจำเป็น ทำให้ไม่ต้องยืมเงินเพิ่มเติม หรือผลัดจ่ายค่าผ่อนบ้านในเดือนที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะเห็นได้ว่าการเก็บเงินออมอย่างสม่ำเสมอนั้นไม่ได้เป็นการออมที่ทำให้ตัวเองลำบาก แต่เป็นการเก็บออมเงินไว้ใช้ในยามจำเป็นในอนาคต หรือในกรณีที่อยากปิดหนี้ผ่อนบ้านเร็ว ๆ ก็สามารถนำเงินก้อนที่เก็บไว้มาโปะหนี้ได้ด้วยเช่นกัน
8. วางแผนซ้อมผ่อนเงินสร้างบ้าน
พอจัดระเบียบด้านการเงินในแต่ละเดือนเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงช่วงวางแผนซ้อมผ่อนบ้าน โดยควรซ้อมผ่อนอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปเพื่อสร้างความมั่นใจว่าในระหว่างแผนที่นำไปใช้ผ่อนบ้านจริงจะไม่มีปัญหาใด ๆ ถ้าเกิดระหว่างซ้อมผ่อนเก็บเงินซื้อบ้านมีปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเผลอนำเงินเก็บมาใช้หรือใช้เงินมากกว่าเงินได้ นั่นหมายความว่าแผนที่เตรียมไว้มีปัญหาหรือไม่สามารถใช้ได้จริง จะต้องปรับกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง
ในระหว่างที่ซ้อมผ่อนบ้าน ในที่นี้ก็จะมีเคล็ดลับมาแบ่งปันเพื่อให้การซ้อมดูเหมือนจริงมากยิ่งขึ้น ดังนี้
ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน
เมื่อซื้อบ้านจริง จะมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องจ่ายนอกเหนือจากค่าบ้าน เช่น ค่าจองและทำสัญญา ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมไว้ด้วย ดังนั้นในระหว่างที่เก็บเงินซื้อบ้านจะต้องเตรียมเงินส่วนนี้ด้วยเช่นกัน
สินเชื่อบ้าน
ในเวลาที่เลือกสินเชื่อผ่อนบ้านจะต้องเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของตนเอง มีอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่สามารถจ่ายได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความคล่องทางการเงินในแต่เดือน และที่สำคัญก่อนจดเซ็นสัญญาสินเชื่อจะต้องอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดครบถ้วน เพื่อป้องกันการเผลอทำผิดสัญญาซึ่งอาจจะเป็นผลเสียต่อการซื้อบ้านในอนาคตได้
ในกรณีที่ระหว่างซ้อมผ่อนเก็บเงินสร้างบ้านไม่มีปัญหาใด ๆ ก็สามารถทำการผ่อนบ้านจริงได้เลย โดยระหว่างที่พิจารณาเลือกสินเชื่อผ่อนบ้านอาจจะสอบถามเรื่องโปรโมชั่นกับทางสถาบันทางการเงิน เพื่อสามารถซื้อบ้านในราคาที่ถูกลงได้ รวมถึงจะต้องตรวจสอบเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์บ้านด้วย เพราะหลังจากที่ผ่อนบ้านไประยะหนึ่งดอกเบี้ยบ้านจะสูงขึ้นเป็นเท่าตัว
9. มองหางานหารายได้เสริม
การหารายได้เสริมเป็นหนึ่งในวิธีเก็บเงินซื้อบ้านที่ช่วยให้มีเงินเก็บมากขึ้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนอยากมีรายได้เสริม แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี ในที่นี้ก็อาจจะเริ่มจากการสำรวจตนเองก่อนว่ามีความสามารถทางด้านไหนบ้าง เช่น หากมีความถนัดทางด้านงานฝีมือก็อาจจะถักตุ๊กตา กระเป๋า ทำเครื่องประดับขาย ถ้าวาดรูปเก่งก็อาจจะเปิดรับวาดรูปคอมมิชชั่น หรือถ้าถนัดทางด้านวิชาการก็เปิดรับสอนพิเศษน้อง ๆ เป็นต้น
ถ้าหากต้องการหางานเสริมที่สามารถทำและจบในวันเดียวได้ก็อาจจะรับงานสตาฟรายวัน หรือในกรณีที่ต้องการลงทุนเปิดธุรกิจหาเงินเสริมเป็นของตนเองเพิ่มเติม เช่น การเปิดร้านขายของ ร้านขนม ร้านอาหาร ก็สามารถทำได้เหมือนกันเพราะจะช่วยให้มีช่องทางหารายได้และเก็บเงินซื้อบ้านเพิ่มขึ้น
10. ลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างเงินก้อน
การลงทุนจะมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้นและช่วยให้เก็บเงินซื้อบ้านได้ไวขึ้น ในที่นี้สามารถลงทุนได้ในทั้งรูปแบบของการซื้อสลากหรือพันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือถ้าต้องการให้เงินงอกเงยมากขึ้นก็อาจจะเลือกซื้อกองทุนรวม หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์แทนได้
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนมักมาพร้อมกับความเสี่ยง จึงจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลและความเสี่ยงก่อนลงทุนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เงินที่ใช้ลงทุนกลายเป็นเงินศูนย์ เพราะการลงทุนโดยที่ไม่รู้ข้อมูลอาจเป็ตเหตุทำให้สูญเสียเงินเก็บทั้งหมดแทนที่จะสามารถเก็บเงินซื้อบ้านได้เร็วขึ้น
เก็บเงินซื้อบ้านง่ายขึ้นด้วย MAKE by KBank
การซื้อบ้านหลังหนึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อมหากเก็บเงินซื้อบ้านอย่างถูกวิธี แต่เพื่อให้การซื้อบ้านเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุดก็ไม่ควรประมาทในเรื่องการใช้เงิน รวมถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องช่องทางการเก็บเงิน เพราะทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการผ่อนบ้านในอนาคตได้
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาตัวช่วยในการเก็บเงิน ในที่นี้ก็จะมีช่องทางการเก็บเงินที่อยากแนะนำ คือ MAKE by KBank แอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ทุกคนรวมถึงผู้ที่กำลังเก็บเงินสร้างบ้านสามารถวางแผนจัดการเงินได้อย่างง่ายดายด้วยการสร้าง Cloud Pocket ที่สามารถแบ่งเงินส่วนต่าง ๆ ให้อย่างชัดเจน และยังมีระบบล็อคกระเป๋าที่กันไม่ให้เผลอดึงเงินออกมาใช้