
มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกที่เกิดจากการแสดงสีหน้าเยอะ หน้าเหลี่ยม เห็นกรอบหน้าไม่ชัด มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดโบท็อก โปรแกรมผิวตัวดังที่จะช่วยปรับรูปหน้าให้ได้รูปสวยโดยไม่ต้องผ่าตัด บทความนี้ จะพาทุกคนมาสำรวจโบท็อก ราคาเท่าไหร่ แพงไหม อยากเปรียบเทียบราคาเพื่อดูความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจ หรือมีข้อสงสัยว่าโปรโมชั่นบุฟเฟต์โบท็อกราคาถูก ปลอดภัยไหม น่าฉีดหรือเปล่า มาหาคำตอบในบทความนี้ไปพร้อมกัน
โบท็อกดียังไง คุ้มไหม ช่วยอะไรได้บ้าง?
โบท็อก หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เป็นสารที่สกัดจากโปรตีนชนิดพิเศษ มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ขยับได้น้อยลง ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยขมวดคิ้ว รอยย่นบนหน้าผาก รอยตีนกา ค่อย ๆ หายไป ช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียน หน้าดูเด็กลงอีกครั้ง หรือจะฉีดโบท็อกเพื่อลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า ให้หน้าดูเรียวสวยโดยไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้น
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์ สามารถใช้เพื่อรักษาภาวะเหงื่อออกมากเกินไป ช่วยลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดตึงจากออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย
โบท็อกถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่ได้กลับมา ทั้งนี้ การฉีดโบท็อก 1 ครั้ง จะอยู่ได้นาน 3-5 เดือน ควรกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผลลัพธ์เอาไว้
โปรแกรมฉีดโบท็อกราคาเท่าไหร่?

หลายคนอาจสงสัยว่าโบท็อกราคาแพงไหม โดยทั่วไปก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ ซึ่งโบท็อกเกาหลีจะถูกและเข้าถึงง่ายกว่าฝั่งยุโรป อเมริกา นอกจากนี้ ปริมาณโบท็อกที่ใช้ จุดที่ฉีด และโปรโมชันของแต่ละคลินิกก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกราคาแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ไม่ควรเลือกใช้โบท็อกราคาถูกมากเกินไป เพราะอาจเป็นของไม่มีคุณภาพ ฉีดแล้วเสี่ยงหน้าพังได้
ทำไมถึงไม่ควรฉีดโบท็อกโปรโมชั่นบุฟเฟต์ถูก ๆ
ฉีดโบท็อกไม่จำกัดยูนิต ฉีดโบท็อกบุฟเฟต์ การทำโปรโมชันโบท็อกราคาถูกแบบนี้ อาจดึงดูดใจลูกค้าได้ไม่น้อย แต่รู้หรือไม่? ถ้าหลงไปฉีดอาจมีความเสี่ยงเจอโบท็อกปลอม โบท็อกหิ้วแบบไม่รู้ตัว เพราะส่วนใหญ่จะไม่ผสมยาให้ดูต่อหน้า ลูกค้าจึงไม่สามารถแยกออกด้วยตาเปล่าว่าของเหลวที่นำมาฉีดเป็นตัวยาจริง หรือเป็นสารแปลกปลอมอื่น ๆ รวมถึงการนำน้ำเกลือเปล่า ๆ มาฉีดให้ หลังฉีดจึงไม่เห็นผล อาจเกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ และดื้อโบท็อกในอนาคต
นอกจากนี้ การฉีดโบท็อกราคาถูกมากเกินไป ยังเสี่ยงต่อการเจอหมอเถื่อน หมอกระเป๋าที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ทำให้ฉีดผิดตำแหน่ง ซึ่งนอกจากจะไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดี ยังอาจทำให้หน้าพัง มีอาการหนังตาตก ปากเบี้ยว หรือยิ้มไม่สุดได้
ข้อแนะนำในการเลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ปลอดภัย
อยากฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย อย่าเลือกจากโบท็อกราคาถูกหรือแพงอย่างเดียว ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม ดังนี้
- คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแปะไว้ด้านหน้าคลินิกอย่างชัดเจน
- สถานที่สะอาด ไม่อับชื้น ผ่านการฆ่าเชื้อเป็นอย่างดี และมีระบบจัดการขยะติดเชื้อที่ถูกต้อง
- คุณหมอประจำคลินิกมีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และสามารถตรวจสอบประวัติได้ผ่านทางเว็บไซต์ของแพทยสภา
- ใช้โบท็อกแท้ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย โดยสังเกตได้จากเลข Lot. บนกล่องกับที่ขวดโบท็อกตรงกัน บรรจุภัณฑ์ปิดสนิท มีฉลากภาษาไทยชัดเจน และเป็นโบท็อกราคามาตรฐาน ไม่ถูกเกินไปจนผิดปกติ
- มีบริการติดตามผล ฉีดย้ำโบได้ฟรี ในกรณีที่ฉีดแล้วเห็นผลไม่เต็มที่ เพื่อการันตีความพึงพอใจในผลลัพธ์ของลูกค้า
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในหลาย ๆ ช่องทาง เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
โบท็อก 50 unit & 100 unit ราคาต่างกัน ฉีดแบบไหนดี?
อย่างที่รู้กันดีว่า ปริมาณโบท็อกมีผลต่อราคาที่สูงขึ้น ทำให้หลายคนลังเลว่าควรเลือกขนาดไหนดี ระหว่างโบท็อก 50 ยูนิต กับ 100 ยูนิต ใช้แบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน คำถามนี้ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าต้องใช้โบท็อกปริมาณเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละเคส
แต่ในเบื้องต้นโบท็อก 50 ยูนิต จะเหมาะกับการฉีดเฉพาะจุด เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยใต้ตา หรือริ้วรอยร่องแก้ม ส่วนโบท็อก 100 ยูนิต เหมาะกับคนที่ต้องการฉีดหลายจุดพร้อมกัน เช่น ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยคู่กับการฉีดโบลดกรามเป็นต้น
ฉีดโบท็อกราคาคุ้มค่า ต้องเลือกใช้โบท็อกแท้ ในคลินิกที่มีมาตรฐาน
โบท็อกเป็นวิธีที่ช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้จริง โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น สำหรับราคาของโบท็อกจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งยี่ห้อโบท็อก ปริมาณ จุดที่ฉีด รวมถึงคลินิกที่เข้ารับบริการ ทั้งนี้ ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้โบท็อกแท้ และมีแพทย์เป็นผู้ประเมินปริมาณโบท็อกที่เหมาะสมให้แก่คนไข้แต่ละราย จะช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจน ได้โบท็อกราคาคุ้มค่า ไม่ต้องฉีดเติมบ่อย และมีความปลอดภัยในการทำหัตถการ