บัตรกดเงินสด Cash Card คืออะไร สมัครง่าย อนุมัติไวจริงหรือ

บัตรกดเงินสด

ในปัจจุบัน มีสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนเกิดขึ้นเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เข้ารับรักษากับทางโรงพยาบาล หรือไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้ จึงจำเป็นต้องใช้เงินสดอย่างเร่งด่วน ทำให้ผู้ที่มีบัตรเงินสดในมือสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย โดยหลายธนาคารเปิดให้สมัครบัตรกดเงินสดได้ง่ายขึ้น เพื่อความคล่องตัว โดยเฉพาะบัตรกดเงินสด KTC Proud ที่มีความน่าสนใจ ใช้งานง่าย ผ่อน 0% จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก


บัตรกดเงินสดมีข้อดีอย่างไร

บัตรกดเงินสด (Cash Card) เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งของสถาบันการเงินหรือธนาคารต่าง ๆ โดยสามารถใช้กดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม (ATM) หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่เข้าร่วมบริการได้ไม่จำกัดครั้ง เพื่อถอนเงินสดจากบัญชีบัตรกดเงินสดของตน ซึ่งมีวงเงินตามที่ได้รับอนุมัติ รวมถึงค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน

ก่อนจะสมัครบัตรกดเงินสดจะต้องทราบรายละเอียด เงื่อนไข รวมถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ของบัตรกดเงินสดเสียก่อน โดยบัตรกดเงินเหล่านี้ มีคุณสมบัติ คือ

  • ใช้กดเงินสดจาก ATM หรือตู้บริการทางการเงินอื่น ๆ ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ
  • บัตรกดเงินสดมักจะมีค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนเงินคงที่หรือเป็นร้อยละของยอดที่ถอน เช่น 3% ของยอดที่ถอน แต่บางสถาบันการเงินก็อาจจะฟรีค่าธรรมเนียม
  • การถอนเงินสดมักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการใช้บัตรเครดิตในการชำระสินค้าหรือบริการ โดยอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดมักเริ่มคิดทันทีที่ถอนเงิน ไม่มีระยะเวลาผ่อนผัน (Grace period)
  • วงเงินของบัตรกดเงินสดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน ซึ่งจะพิจารณาจากรายได้หรือสถานะทางการเงินของผู้ใช้บริการ
  • สามารถสมัครบัตรกดเงินสดได้ โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันหรือใช้ทรัพย์สินเป็นหลักประกัน

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้บัตรกดเงินสดมีข้อดีที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้

  • บัตรกดเงินสดช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถกดเงินสดได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน ATM หรือตู้บริการการเงินอื่น ๆ ที่เข้าร่วมรายการ เหมาะสำหรับกรณีต้องการเงินสดเร่งด่วน
  • สามารถใช้รับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการเงินสดทันที เช่น เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซื้อของจากร้านค้าที่ไม่รับบัตรเครดิต เป็นต้น
  • บัตรกดเงินสดสามารถขอเพิ่มวงเงินได้ทันที ในกรณีต้องการใช้เงินสดจำนวนมากอย่างเร่งด่วน โดยไม่ต้องขอเพิ่มวงเงินในบัตร
  • บางสถาบันการเงินยังอนุมัติให้สามารถกดบัตรกดเงินสดในต่างประเทศได้
  • มีโปรโมชั่นหรือสิทธิประโยชน์เสริมอื่น ๆ เช่น ลดค่าธรรมเนียม โปรโมชั่นในร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ

บัตรกดเงินสดช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้ผู้ถือบัตรมีเงินสดเพื่อใช้จ่ายได้ในทุกสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ควรให้บัตรกดเงินเป็นตัวเลือกสุดท้าย ในกรณีที่ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้ ด้วยบัตรกดเงินสดจะมีค่าธรรมเนียมหรืออัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัตรเครดิตเล็กน้อย ดังนั้น จึงควรพิจารณาการใช้บัตรอย่างรอบคอบทุกครั้ง


5 Tips ใช้บัตรกดเงินสดให้คุ้มค่า

วิธีใช้บัตรกดเงินสด

บัตรกดเงินสดมีข้อดีหลายประการ ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถกดเงินสดออกมาใช้จ่ายได้อย่างทันใจ ทุกสถานการณ์เร่งด่วน ทั้งนี้ จึงขอแนะนำเคล็ดลับการใช้บัตรกดเงินสดให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ดังนี้

เตรียมตัวก่อนใช้บัตร

ก่อนสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์จะต้องศึกษารายละเอียด เงื่อนไขของบัตรกดเงินสดให้ดี เพื่อป้องกันการใช้จ่ายหรือกดเงินสดเกินเงื่อนไข ซึ่งจะทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ย โดยไม่จำเป็น ซึ่งเงื่อนไขที่ควรทราบได้แก่

  • ค่าธรรมเนียมของบัตรกดเงินสด ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดแต่ละครั้ง
  • อัตราดอกเบี้ย อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถชำระได้ โดยคำนึงถึงระยะเวลาชำระเงินคืนร่วมด้วย
  • วงเงินของบัตรกดเงินสด ครอบคลุมยอดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือประมาณการไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการถอนเงินเกินวงเงินและเสียค่าธรรมเนียม
  • ตู้ ATM ที่เข้าร่วมรายการ จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกดบัตรกดเงินสด

ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

ด้วยบัตรกดเงินสดจะคิดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่กดเงินสด ดังนั้น จึงควรใช้บัตรในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น หรือในสถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้ เพราะหากมีการชำระเงินคืนล่าช้า ก็อาจจะเกิดหนี้สะสมได้

ติดตามโปรโมชั่นสม่ำเสมอ

บัตรกดเงินสดก็มีโปรโมชั่นเช่นกัน เช่น ลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสดในช่วงเวลาที่กำหนด เพิ่มระยะเวลาชำระคืน ลดอัตราดอกเบี้ยตามช่วงเวลา ผ่อน 0% เป็นต้น ซึ่งหากติดตามโปรโมชั่นเหล่านี้จากสถาบันการเงิน ก็จะช่วยให้ใช้บัตรได้ง่ายและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

วางแผนการชำระเงินคืน

ก่อนใช้บัตรกดเงินสดทุกครั้ง ควรวางแผนแนวทางชำระเงินคืน โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือ จะต้องชำระเงินคืนให้เร็วที่สุด เพื่อลดดอกเบี้ย โดยใช้บัตรภายใต้เงื่อนไข เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินในระหว่างรอเงินเดือน หรือเงินสวัสดิการต่าง ๆ ซึ่งเมื่อได้รับเงินมาแล้ว ก็จะสามารถชำระเงินคืนได้ทันที

ชำระเงินขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย

สำหรับการชำระเงินคืนบัตรกดเงินสด หากไม่สามารถชำระคืนทั้งก้อน ก็ควรชำระขั้นต่ำของบัตรไปก่อน เพื่อลดดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาเครดิตของตนเอง แต่เมื่อได้รับเงินก้อนมาแล้ว ก็ควรจะรีบชำระให้ครบถ้วน


บัตรกดเงินสดแตกต่างจากบัตรเครดิตอย่างไร

บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด

บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดมีความใกล้เคียงกัน ด้วยเป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งของสถาบันการเงินเหมือนกัน แต่มีรายละเอียดการใช้จ่ายแตกต่างกัน ดังนี้

1.การใช้งาน

  • บัตรเครดิต ใช้สำหรับชำระสินค้าหรือบริการจากร้านค้าหรือร้านออนไลน์ต่าง ๆ
  • บัตรกดเงินสด ใช้สำหรับถอนเงินสดจากตู้ ATM แล้วจึงนำไปชำระสินค้าหรือบริการอีกที

2.การถอนเงิน

  • บัตรเครดิต ใช้สำหรับชำระสินค้าหรือบริการ โดยไม่ต้องถอนเงินสด
  • บัตรกดเงินสด ใช้สำหรับถอนเงินสดจากวงเงินของบัตร

3.ค่าธรรมเนียมหรืออัตราดอกเบี้ย

  • บัตรเครดิต มักมีค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยในกรณีที่มียอดค้างชำระหลังจากวันครบกำหนด
  • บัตรกดเงินสด อาจจะมีค่าธรรมเนียมกดเงินสดบางสถาบันการเงิน และมักมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการใช้บัตรเครดิตทั่วไป

4.ระยะเวลาผ่อนผัน

  • บัตรเครดิต มีระยะเวลาผ่อนผันที่ไม่คิดดอกเบี้ย ถ้าชำระหนี้ทั้งหมดก่อนกำหนด
  • บัตรกดเงินสด ไม่มีระยะเวลาผ่อนผัน จะคิดดอกเบี้ยทันที่กดถอนเงินสด

5.วงเงิน

  • บัตรเครดิต ได้รับวงเงินตามที่กำหนด เพื่อใช้ชำระสินค้าหรือบริการ
  • บัตรกดเงินสด ได้รับอนุมัติวงเงิน ซึ่งเมื่อถอนเงินแล้วจะทำให้วงเงินลดลง

6.การให้เงินกู้

  • บัตรเครดิต มักไม่ได้รับอนุมัติให้กู้เงิน
  • บัตรกดเงินสด สามารถกู้เงินได้ในรูปแบบของเงินสด

จะเห็นได้ว่า บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนสมัครบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตจะต้องศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบ และพิจารณาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง เพื่อให้สามารถใช้บัตรเหล่านี้ให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด หลีกเลี่ยงการจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่จำเป็น


คำนวณอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดอย่างไร

การคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

  • อัตราดอกเบี้ย ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน มักจะแสดงเป็นร้อยละต่อเดือนหรือต่อปี
  • ค่าธรรมเนียมการกดเงินสด (Cash Advance Fee) เป็นจำนวนเงินคงที่หรือร้อยละของยอดที่ถอน
  • วงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ หรือ จำนวนเงินที่เบิกถอน

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจะขึ้นอยู่กับวิธีการคำนวณของแต่ละสถาบันการเงิน แต่โดยทั่วไปแล้ว จะคำนวณ ดังนี้

 

ดอกเบี้ยที่เรียกเก็บ = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันที่ผ่านไป) ÷ 365 วัน

 

โดยจำนวนวันที่ผ่านไป คือ ช่วงเวลาที่ผ่านไปตั้งแต่วันที่ถอนเงินสดไปจนถึงวันที่ชำระหนี้

แต่ทั้งนี้ แต่ละสถาบันการเงินก็อาจจะมีวิธีคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดแตกต่างกัน ซึ่งก่อนสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ก็ควรศึกษาเงื่อนไขของบัตรให้ดีเสียก่อน เพื่อให้สามารถชำระเงินคืนในดอกเบี้ยที่น้อยที่สุด


เอกสารสำหรับสมัครบัตรกดเงินสด

เอกสารสมัครบัตรกดเงินสด

สำหรับการสมัครบัตรกดเงินสดจำเป็นต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้ครบถ้วน โดยใช้เอกสารตามสถานภาพ ดังต่อไปนี้

  • พนักงานบริษัท / ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  2. สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และสำเนาทะเบียนบ้าน
  3. เอกสารรับรองรายได้
  • หนังสือรับรองเงินเดือน / สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด (ฉบับจริง)
  • สำเนาใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร เป็นบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
  • สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชี ระบุชื่อธนาคารและเลขที่บัญชี
  • เจ้าของกิจการ / ประกอบธุรกิจส่วนตัว
  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  2. สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนนิติบุคคล หรือ ทะเบียนการค้า หรือ ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  3. เอกสารรับรองรายได้ 
  • สำเนาบัญชีธนาคารในนามส่วนตัวผู้กู้ ย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (เฉพาะบริษัท)
  • สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชี ระบุชื่อธนาคารและเลขที่บัญชี

ทั้งนี้ เอกสารสำหรับสมัครบัตรกดเงินสดอาจจะมีความแตกต่างกันในแต่ละสถาบันการเงิน ดังนั้น ก่อนสมัครจึงควรศึกษารายละเอียดให้ดี เพื่อให้สมัครได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหา


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบัตรกดเงินสด 

บัตรกดเงินสดถือว่าเป็นบัตรที่มีความน่าสนใจ ใช้งานได้ง่าย แต่ก็ยังมีข้อสงสัยหลายประการ ได้แก่

สามารถผ่อนชำระบัตรกดเงินสดเกินค่างวดได้หรือไม่?

การผ่อนชำระบัตรกดเงินสดเกินค่างวดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน โดยบางบัตรอาจมีแพ็กเกจการผ่อนชำระเฉพาะสำหรับบางรายการหรือบางค่าใช้จ่าย ซึ่งมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายเพิ่ม ดังนั้น ก่อนสมัครบัตรกดเงินสดจึงควรศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้เพิ่มเติม พร้อมทั้งพิจารณาแนวโน้มการชำระเงินคืนของตนเองให้ดี เลือกสมัครบัตรกับสถาบันการเงินที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์และสภาพการเงินของตนเอง

บัตรกดเงินสด 30 นาที คืออะไร?

บัตรกดเงินสดอนุมัติ 30 นาที (30-Minute Cash) คือ การอนุมัติบัตรกดเงินสดจากสถาบันการเงิน โดยใช้เวลาพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครเพียงแค่ 30 นาที เพื่อให้ผู้สมัครสามารถกดใช้บัตรกดเงินสดได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ทันที ไม่ต้องรอนาน ถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อประเภทอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ รถแลกเงิน สินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ซึ่งสามารถสมัครและนำเงินมาใช้ได้ทันที


สรุปเกี่ยวกับบัตรกดเงินสด

บัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งของสถาบันการเงิน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรสามารถเบิกถอนเงินสดจากตู้ ATM ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้เงินในสถานการณ์เร่งด่วนหรือไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้ แต่ก็อาจจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัตรเครดิตเล็กน้อย ดังนั้น จึงควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลก่อนสมัครบัตรกดเงินสดให้ดี เพื่อให้ใช้บัตรได้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

รับฟรี! รวมโพสขายดี