“รวมหนี้บัตรเครดิต” วิธีจัดการหนี้ง่ายๆ ที่คนเป็นหนี้ไม่ควรพลาด

รวมหนี้บัตรเครดิต

การรวมหนี้บัตรเครดิต หรือที่เรียกอีกอย่างว่า สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต คือ การขอสินเชื่อใหม่จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อนำเงินกู้ไปชำระปิดยอดหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่ทั้งหมด เปรียบเสมือนการรวมหนี้หลายๆ ก้อน มาเป็นก้อนเดียว เพื่อผ่อนชำระกับสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียว โดยวิธีรวมหนี้บัตรเครดิต 3 รูปแบบ ดังนี้

  1. การโอนหนี้ (Balance Transfer): โอนหนี้จากบัตรเครดิตใบหนึ่งไปยังบัตรเครดิตอีกใบที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า มักจะมีช่วงโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% สำหรับระยะเวลาหนึ่ง
  2. การกู้เงินส่วนบุคคล (Personal Loan): กู้เงินส่วนบุคคลเพื่อนำเงินมาชำระหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด จากนั้นจะผ่อนชำระหนี้กู้เงินส่วนบุคคลแทน ซึ่งมักมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรเครดิต
  3. การขอสินเชื่อรวมเงินกู้ (Debt Consolidation Loan): สินเชื่อประเภทนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวมหนี้ทั้งหมดไว้ในสินเชื่อก้อนเดียว ทำให้มีการชำระหนี้ที่ง่ายขึ้นและอาจลดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย

บุคคลที่ควรรวมหนี้บัตรเครดิต

การรวมหนี้บัตรเครดิตเป็นก้อนเดียว เหมาะกับบุคคลดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ: การรวมหนี้ช่วยให้จัดการกับหนี้ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องติดตามยอดหนี้และวันที่ครบกำหนดชำระหลายๆ บัญชี
  • ผู้ที่มีดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูง: สินเชื่อรวมหนี้มักมีดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต ช่วยให้ประหยัดค่าดอกเบี้ยในระยะยาว
  • ผู้ที่มีภาระผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตหลายก้อนต่อเดือน: การรวมหนี้ทำให้มีภาระการผ่อนชำระเพียงก้อนเดียวต่อเดือน ยอดผ่อนต่อเดือนอาจลดลง ช่วยให้บริหารจัดการเงินง่ายขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการมีวินัยทางการเงิน: การรวมหนี้บัตรเครดิตช่วยให้มีแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจน กระตุ้นให้มีวินัยในการผ่อนชำระมากขึ้น
  • ผู้ที่กำลังประสบปัญหาการเงิน: การรวมหนี้ช่วยให้ผ่อนภาระหนี้ ลดความเครียด และมีโอกาสแก้ไขปัญหาการเงินได้ง่ายขึ้น

การเตรียมความพร้อมในการรวมหนี้บัตรเครดิต

สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต คือ

การเตรียมความพร้อมสำหรับการรวมหนี้บัตรเครดิตมีขั้นตอนหลายอย่างที่สำคัญที่จะต้องทำเพื่อให้กระบวนการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

1. ตรวจสอบยอดหนี้บัตรเครดิตทุกใบ

รวบรวมบัตรเครดิตทั้งหมดที่มี จดบันทึกยอดหนี้คงค้าง อัตราดอกเบี้ย และวันที่ครบกำหนดชำระของแต่ละบัตร แล้วรวมยอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดเพื่อทราบยอดหนี้รวม

2. คำนวณยอดผ่อนชำระบัตรเครดิตทุกใบในแต่ละเดือน

ประเมินจำนวนเงินที่สามารถผ่อนชำระได้ต่อเดือน โดยอาจใช้เครื่องมือคำนวณสินเชื่อออนไลน์เพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระคร่าวๆ เพื่อเปรียบเทียบยอดผ่อนชำระกับรายได้และภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ

3. เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องในการรวมหนี้บัตรเครดิต

เตรียมเอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เอกสารแสดงตัวตน เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารอื่นๆ ที่ธนาคารต้องการ เช่น สำเนาบัตรเครดิต เป็นต้น

4. ศึกษาผลกระทบต่อเครดิตของเรา

การสมัครสินเชื่อใหม่จะส่งผลต่อข้อมูลเครดิต ดังนั้นต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจขอรวมหนี้บัตรเครดิต และควรมีแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจน

5. เปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตของแต่ละธนาคาร

ศึกษาข้อมูลสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตจากธนาคารต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ระยะเวลาผ่อนชำระ เงื่อนไขการสมัคร เอกสารที่ต้องใช้ และเลือกธนาคารที่รวมหนี้บัตรเครดิตที่เสนอข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

6. เลือกธนาคารรวมหนี้บัตรเครดิตที่ต้องการ

หากต้องการรวมหนี้บัตรเครดิต คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารรวมหนี้จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อาจจะเป็นเว็บไซต์ของธนาคารเอง หรือเว็บไซต์ที่ให้ความรู้อย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สินเชื่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ

รวมหนี้บัตรเครดิตมีข้อดี – ข้อควรตระหนัก อะไรบ้าง?

การตัดสินใจรวมหนี้บัตรเครดิตควรพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่เสนอมาอย่างรอบคอบ ซึ่งข้อดีและข้อควรระวังของโครงการรวมหนี้บัตรเครดิต แบ่งออกเป็นดังนี้

ข้อดีของการรวมหนี้บัตรเครดิต

  • ดอกเบี้ยถูกลง: โดยทั่วไป สินเชื่อรวมหนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าดอกเบี้ยของบัตรเครดิต ช่วยให้ประหยัดค่าดอกเบี้ยในระยะยาว
  • ผ่อนชำระง่ายขึ้น: การรวมหนี้ทำให้มีภาระการผ่อนชำระเพียงก้อนเดียวต่อเดือน ยอดผ่อนต่อเดือนอาจลดลง ช่วยให้บริหารจัดการเงินง่ายขึ้น
  • มีวินัยทางการเงินมากขึ้น: การรวมหนี้บัตรเครดิตช่วยให้มีแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจน กระตุ้นให้มีวินัยในการผ่อนชำระมากขึ้น
  • ลดความสับสน: ไม่ต้องกังวลกับการจ่ายหนี้หลายๆ บัญชี ช่วยให้ติดตามยอดหนี้และวันที่ครบกำหนดชำระได้ง่ายขึ้น

ข้อควรตระหนักในการรวมหนี้บัตรเครดิต

  • มีภาระผูกพันยาวนาน: สินเชื่อรวมหนี้จะมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน อาจเป็น 3 ปี 5 ปี หรือ 7 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร ผู้กู้ต้องมีวินัยและความรับผิดชอบสูงเพื่อชำระหนี้จนครบกำหนด
  • เสียค่าธรรมเนียม: การสมัครสินเชื่อรวมหนี้จะมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการ ผู้กู้ควรศึกษาเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมจากธนาคารต่างๆ ก่อนตัดสินใจ
  • อาจกระทบเครดิต: การสมัครรวมหนี้บัตรเครดิตจะมีผลต่อข้อมูลเครดิตของผู้กู้ ควรศึกษาเงื่อนไขและผลกระทบต่อเครดิตก่อนตัดสินใจ

สรุป รวมหนี้บัตรเครดิตช่วยอะไร

การรวมหนี้บัตรเครดิต เหมาะกับผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ดอกเบี้ยสูง ต้องการประหยัดค่าดอกเบี้ย มีวินัยในการผ่อนชำระ และต้องการรวมหนี้บัตรเครดิตไว้ที่เดียว แต่ก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาเปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารรวมหนี้บัตรเครดิตต่างๆ พร้อมคำนวณยอดผ่อนชำระให้เหมาะสมกับความสามารถทางการเงิน และศึกษาผลกระทบต่อข้อมูลเครดิตก่อนการตัดสินใจ

รับฟรี! รวมโพสขายดี