
เชื่อว่าปัญหาหน้าผากแคบแบนคงทำให้หลายคนหมดความมั่นใจลงไปไม่น้อย เพราะมันทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ ทำให้การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการเติมเต็มรอยบุ๋ม หรือเติมเต็มหน้าผากให้ดูโค้งนูนสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ผ่านขั้นตอนการผ่าตัดเลยแม้แต่นิดเดียว โจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับใบหน้าของตัวเองและต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาอันสั้น แต่ก่อนที่เราจะไปเติมฟิลเลอร์หน้าผากเราควรรู้ข้อมูลก่อนฉีดเพื่อความปลอดภัย
หน้าผากแบน มีริ้วรอย จัดการได้ด้วยฟิลเลอร์หน้าผาก
ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นหัตถการด้านความงามที่สามารถแก้ไขปัญหาหน้าผากเรียบแบน ริ้วรอย ร่องยุบ รอยบุ๋ม ที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เพื่อปรับรูปทรงหน้าผากให้ดูโค้งมนรับกับใบหน้า ทำให้หน้าผากดูโหนกนูน มีความเรียบเนียน ซึ่งข้อดีของการฉีด fillerหน้าผากคือเราสามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังฉีด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และสารเติมเต็มยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
ตอบคำถามฟิลเลอร์หน้าผาก ที่หลายคนสงสัย

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องรู้อะไรบ้าง ? รวม 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับฟิลเลอหน้าผากที่หลายคนให้ความสงสัย พร้อมแชร์คำตอบให้กระจ่างก่อนฉีด
1. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็จะเหมาะสำหรับคนที่อยากปรับรูปทรงหน้าผากแต่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่อยากมีแผลและไม่มีเวลาในการพักฟื้น ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการปรับความโหนกนูนของหน้าผากให้ดูมีมิติขึ้นได้แทนการเสริมซิลิโคน ซึ่งก็จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะหน้าผากดังนี้
- ผู้ที่มีลักษณะหน้าผากแคบแบน
- ผู้ที่มีรอยบุ๋มหรือร่องลึกที่หน้าผากและต้องการเติมร่องหน้าผาก
- ที่มีหน้าผากเป็นคลื่น ๆ ไม่เรียบเนียน
2. หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถสลายได้ไหม
หากฉีดเติมหน้าผากใช้สารประเภท Hyaluronic Acid เมื่อถึงเวลาสารชนิดนี้จะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติซึ่งระยะเวลาในการสลายตัวของมันนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณหรือชนิดของฟิลเลอร์หน้าผากที่เราเลือกใช้ แต่ในกรณีที่ใครฉีดไปแล้วรู้สึกว่ายังไม่พึงพอใจ หรือต้องการนำสารเติมเต็มออกก็สามารถสลายได้ด้วยการใช้ Hyaluronidase ในการสลายออก โดยหลังจากที่สลายไปแล้วหน้าผากก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม
3. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและเติมไขมันหน้าผากต่างกันยังไง?
ฟิลเลอร์หน้าผากและการเติมไขมันหน้าผากล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันคือการปรับรูปทรงหน้าผากให้โค้งมนหรือดูสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่จะมีวิธีการรักษาและการให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันดังนี้
ฟิลเลอร์หน้าผาก | ความแตกต่าง | เติมไขมันหน้าผาก |
Hyaluronic Acid (HA) ที่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ | สารที่ฉีด | ใช้ไขมันในร่างกายมาผ่านการดูดและคัดแยกไขมันดี |
เห็นผลทันทีหลังฉีด ปรับรูปทรงได้ง่าย | ผลลัพธ์ | ผลลัพธ์จะค่อยๆชัดเจนขึ้นเมื่อไขมันเซตตัว |
สามารถอยู่ได้ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับที่ห้องที่ฉี่และการดูแลตัวเอง | ระยะเวลาที่คงอยู่ | หากฉีดแล้วไขมันติดผลลัพธ์อาจอยู่ได้หลายปี |
เห็นผลเร็ว ไม่มีแผล ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น | ข้อดี | ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้เพราะใช้ไขมันตัวเอง |
ฟิลเลอร์จะสลายไปตามระยะเวลา ต้องกลับมาฉีดซ้ำ | ข้อกำจัด | มีแผลจากตำแหน่งที่ดูดไขมัน และอาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเนียนจากไขมันที่สลายไม่เท่ากัน |
4. ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวดหรือกดบนหน้าผากเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรง
- ช่วง 2-3 วันแรกงดนอนคว่ำเพื่อป้องกันแรงกดทับที่อาจส่งผลต่อฟิลเลอร์หน้าผาก
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองบริเวณหน้าผาก เช่น Retinol , AHA หรือ BHA เป็นต้น
- หลังฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากงดออกกำลังกายอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้มีอาการบวมแดงเพิ่มขึ้น
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์หน้าผากเสื่อมสภาพเร็ว
- หลังฉีดเติมหน้าผาก 2 สัปดาห์แรกเลี่ยงการทำหัตถการอื่นๆบนใบหน้า
5. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากใช้กี่ cc ถึงจะเข้ากับใบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 1-5 cc ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ซึ่งแพทย์จะประเมินจากปัญหาและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ เช่นในบางเคสมีรอยบุ๋มเพียงเล็กน้อยต้องการฉีดเพื่อปรับความสม่ำเสมอของผิวแพทย์ก็จะประเมินฉีดหน้าผาก 1-2 cc แต่ในเคสที่ต้องการเพิ่มความโค้งนูนแพทย์ก็จะประเมินการใช้ปริมาณที่มากขึ้น
6. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี ให้หน้าผากดูนูนสวย

ยี่ห้อที่เหมาะแก่การนำมาฉีดฟิลเลอร์หน้าผากควรเป็นสารเติมเต็มที่มีลักษณะเป็นเนื้อละเอียด ให้ความยืดหยุ่นดี ฉีดแล้วดูเรียบเนียนเพื่อปรับรูปทรงให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมได้แก่
- Juvederm – แบรนด์ฟิลเลอร์อเมริกา จุดเด่นคือมีคุณสมบัติทางกายภาพที่หลากหลายสามารถนำมาฉีดเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกออกแบบมาให้มีส่วนผสมของยาชาทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน เหมาะแก่การนำมาฉีดฟิลเลอร์หน้าผากให้นูนสวย
- Restylane – ฟิลเลอร์จากสวีเดน ที่มีความโดดเด่นเรื่องขนาดโมเลกุลทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน ช่วยเรื่องการพยุงผิวและให้ความยืดหยุ่นได้ดี ฉีดได้หลายตำแหน่ง สามารถนำมาฉีดเติมหน้าผากให้ดูเรียบเนียนสมูทขึ้นได้ หรือฉีดเพื่อปรับความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณหน้าผาก
- Belotero – เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ เนื้อเจลมีความคงตัวที่สามารถนำมาฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวบริเวณหน้าผากที่ยุบตัวลงตามวัยได้ นอกจากนี้ยังมีรุ่นสำหรับการฉีดเพื่อปรับสภาพผิวได้โดยเฉพาะอีกด้วย
- Yvoire – ฟิลเลอร์จากเกาหลีที่มีความโดดเด่นเรื่องการเติมเต็มและปรับรูปหน้าโดยให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทำให้สารเติมเต็มมีความยืดหยุ่นสูง คงรูปได้นาน เหมาะแก่การเติมริ้วรอยร่องลึกหรือปรับรูปหน้าผากให้ดูสมดุลกันกับใบหน้า
- Teoxane – อีกหนึ่งแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ที่ผสานคุณสมบัติระหว่างความคงตัวและความยืดหยุ่นได้ดี ฉีดแล้วดูกลืนไปกับชั้นผิว ไม่เป็นก้อน สามารถนำมาฉีด filler หน้าผากเพื่อแก้ไขร่องลึก ปรับความชุ่มชื้นได้ง
- Revolax – เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากเกาหลีที่มีคุณสมบัติพิเศษในการยึดเกาะผิวได้ดี ตัวเนื้อเจลมีความละเอียดฉีดแล้วไม่เป็นก้อนดูเรียบเนียนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย สามารถนำมาฉีดฟิลเลอร์หน้าผากให้ดูมีมิติขึ้นได้
7. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายมั้ย ? ฟิลเลอร์หน้าผากถือเป็นหัตถการที่ให้ความปลอดภัยหากเราเข้าใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์ พร้อมทั้งใช้สารเติมเต็มที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งต้องเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ
ถ้าหากว่าเราฉีดฟิลเลอหน้าผากกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือฉีดสารเติมเต็มชนิดอื่น อย่างฟิลเลอร์ชนิดถาวรอาจเสี่ยงต่อการอุดตันของเส้นเลือด หน้าผากบวมผิดปกติ ต้องรีบกลับเข้าไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาหรือขูดเอาฟิลเลอร์ที่ฉีดออก
8. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกี่วันเห็นผล
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความโค้งนูนหรือความเรียบเนียนขึ้นของหน้าผากได้ในทันทีหลังฉีด แต่ผลลัพธ์ที่เห็นหลังฉีดนั้นจะไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมาเต็มที่เนื่องจากฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปยังไม่ได้มีการเซตตัว ซึ่งหลังจากฉีดไปแล้ว 2 สัปดาห์ก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนเพราะสารเติมเต็มมีการเซตตัวแล้วอย่างเต็มที่
9. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอยู่ได้นานกี่เดือน
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะสามารถอยู่ได้ราวๆ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของสารเติมเต็มที่ฉีด เพราะแต่ละยี่ห้อจะให้ระยะเวลาในการคงอยู่ที่แตกต่างกัน ซึ่งเมื่อถึงระยะเวลาของมันแล้วตัวสารจะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการคงอยู่ของสารเติมเต็มก็ยังขึ้นอยู่กับสภาพผิวรวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย
10. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคลินิกไหนดี ไม่เสี่ยงหน้าผากเป็นคลื่น
สำหรับการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์หน้าผากถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะบริเวณหน้าผากเป็นจุดที่ต้องอาศัยความละเอียดและความชำนาญในการฉีด ดังนั้นแล้วเราควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา และควรฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่เห็นแก่ของถูก ซึ่งก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผากควรดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่แสดงถึงประสบการณ์การรักษาและผลลัพธ์ของคลินิก เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าคลินิกที่เรากำลังจะไปทำมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน
ฟิลเลอร์หน้าผาก เปลี่ยนหน้าผากแบนให้สวยละมุน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีมั้ย ? ต้องบอกว่าถือเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงหน้าผากให้ดูโค้งนูน สวยละมุนรับกับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่มาพร้อมจุดเด่นคือเราสามารถเห็นผลหลังฉีกได้เลยทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลานาน ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก่อนฉีดควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือด้วยการดูรีวิวฟิลเลอร์หน้าผากจากหลาย ๆ ที่ควบคู่ไปกับการเช็กราคาฟิลเลอร์หน้าผากที่ต้องมีความสมเหตุสมผล