การรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นธุรกรรมทางการเงินที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้กู้ที่สนใจจะผ่อนบ้านให้หมดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดความตึงเครียดทางการเงินของครอบครัว เพราะดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านลดลงจนทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลงจน มีเงินเหลือให้ใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมเป็นการเสริมสภาพคล่องทางการเงินที่ดี
เช่นนั้นก่อนตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์บ้าน ควรสำรวจอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารชั้นนำต่าง ๆ เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธอส, กรุงไทย, Cimb, ยูโอบี, ออมสิน, ฯลฯ พร้อมคำนวณค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนที่จะยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน และศึกษาวิธีรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อให้ขั้นตอนการทำราบรื่น ไม่ติดขัด ไม่เสียเปรียบ และได้รับอนุมัติได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น
มาทำความรู้จักกับรีไฟแนนซ์บ้าน
รีไฟแนนซ์บ้าน คือ การย้ายสินเชื่อบ้านที่เรากู้เพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารเดิม ไปยังธนาคารใหม่ แต่มีข้อแม้ว่าต้องผ่อนมานานกว่า 3 ปีแล้วถึงจะทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้
ปกติแล้วผู้ที่จะทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านจะตัดสินใจทำ refinance บ้านก็ต่อเมื่อได้ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ถูกกว่าที่เก่า เพื่อที่จะทำให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง ยอดหนี้คงเหลือน้อยกว่าสัญญาเดิม สามารถช่วยให้ผ่อนบ้านได้หมดเร็วขึ้น
บ้านแบบไหนบ้างที่รีไฟแนนซ์บ้านได้
บ้านที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัยทุกประเภท เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว อาคารพาณิชย์ ทั้งที่ปลูกสร้างเอง หรือมาจากโครงการจัดสรร ที่ผู้กู้สามารถแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของ หรือถือกรรมสิทธิ์ได้ ก็สามารถนำทรัพย์สินนั้นมาทำรีไฟแนนซ์บ้านได้หมด
คุณสมบัติสำหรับผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน
สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องทำรีไฟแนนซ์ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่
- ต้องการลดดอกเบี้ยบ้านที่กำลังผ่อนชำระอยู่
- ต้องการวงเงินกู้เพิ่มเพื่อหลากหลายเหตุผล เช่น ปรับปรุงบ้านใหม่, ปิดหนี้บัตรเครดิต หรือนำมาใช้จ่าย
- ต้องการลดระยะเวลาในการผ่อนบ้านให้สั้นลง จะได้หมดหนี้สินไว ๆ
ดังนั้นคนที่ต้องการจะทำ refinance บ้าน ควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติจากธนาคารใหม่
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
สำหรับพนักงานบริษัท / ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- ต้องมีรายได้รวม 15,000 บาทต่อเดือน
- ต้องมีอายุงานไม่ต่ำกว่า 3 เดือน และผ่านช่วงทดลองงานแล้ว
สำหรับเจ้าของกิจการ, ธุรกิจส่วนตัว
- ต้องมีรายได้รวม 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
- มีการจดทะเบียนบริษัท และดำเนินงานไม่น้อยกว่า 2 ปี
สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ / ฟรีแลนซ์
- ต้องมีรายได้รวม 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
- มีเอกสารแสดงที่มาของรายได้ และประกอบอาชีพไม่น้อยกว่า 2 ปี
ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน
ก่อนที่จะทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน ผู้กู้ควรที่จะต้องรู้ค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมดว่าคุ้มค่าที่จะทำการย้ายแหล่งเงินกู้ใหม่หรือไม่
สำหรับค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านนั้น จะขึ้นกับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารที่ผู้กู้ได้ไปสมัครขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านไว้ว่าจะมีกำหนดอะไรบ้าง ทั้งนี้ยังขึ้นกับโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารในช่วงนั้น ๆ ด้วย เพราะบางธนาคารอาจจะให้ฟรีค่าใช้จ่ายทุก ๆ รายการ หรือบางรายการก็เป็นได้
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการรีไฟแนนซ์บ้านไปแหล่งเงินกู้แห่งใหม่หลังครบ 3 ปี คือ
- ค่าประเมินราคาของทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกัน
- ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนจำนอง ตกประมาณ 1% ของวงเงินกู้ ต้องจ่ายให้กรมที่ดิน
- ค่าธรรมเนียมในการปล่อยกู้ใหม่ ส่วนใหญ่จะคิดที่ 0-3% ของวงเงินกู้
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เช่น ค่าอากรแสตมป์สัญญาเงินกู้ ประมาณ 0.05% ของวงเงินกู้
- ค่าประกันอัคคีภัย (ภาคบังคับ) ทำตามมูลค่าบ้าน
วิธีรีไฟแนนซ์บ้าน
เมื่อผู้กู้เห็นว่าตนเองมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะสมัครทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารแห่งใหม่ได้แล้ว พร้อมรับรู้ถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น หลังจากเปรียบเทียบก็พบว่าคุ้มค่าที่จะขอรีไฟแนนซ์บ้าน สามารถช่วยลดภาระค่าผ่อนชำระรายเดือนและช่วยให้หมดหนี้ได้เร็วขึ้น ก็ถึงเวลาที่จะต้องมาทำความเข้าใจกับวิธีรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งมีดังนี้
- นำสัญญากู้บ้านมาตรวจสอบว่าได้ผ่อนบ้านครบ 3 ปีหรือยัง สามารถเริ่มทำรีไฟแนนซ์บ้านได้เมื่อไร
- เปรียบเทียบโปรโมชั่นของธนาคารชั้นนำทั้งหลายเพื่อหาดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ถูกที่สุด ในขั้นตอนนี้เราอาจใช้บริการของ Refinn ที่ให้บริการฟรีคำแนะนำและเปรียบเทียบเพื่อดีลที่ดีที่สุด ตรงความต้องการผู้กู้มากที่สุด เพื่อเลือกธนาคารใหม่ที่ใช่
- เมื่อเลือกได้ว่าจะรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดีที่ตรงเงื่อนไขผู้กู้มากที่สุดแล้ว ก็ควรเตรียมเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่ธนาคารนั้นระบุไว้ สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมนั้น จะได้กล่าวถึงในหัวข้อต่อไป
- ให้ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ที่เลือกไว้ เพื่อที่ทางธนาคารจะได้ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการประเมินหลักทรัพย์ประกอบการอนุมัติต่อไป หลังจากได้รับการอนุมัติจากธนาคารใหม่แล้ว ผู้กู้ต้องตรวจสอบธนาคารเก่าถึงยอดหนี้คงเหลือและนัดวันไถ่ถอน
- ธนาคารใหม่จะส่งเจ้าหน้าที่นำสัญญาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านมาให้ผู้กู้เซ็นที่กรมที่ดิน พร้อมทำสัญญาจำนองที่กรมที่ดินในวันเดียวกันเลย
- สุดท้ายผู้กู้จะมอบโฉนดที่ได้จากกรมที่ดินให้กับธนาคารใหม่ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน
เอกสารรีไฟแนนซ์บ้าน
เมื่อเลือกธนาคารใหม่ที่จะทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแล้ว ก็ต้องเตรียมเอกสารเพื่อใช้ประกอบการสมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านให้พร้อม เอกสารรีไฟแนนซ์บ้านที่ต้องใช้มีดังนี้
1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ และผู้ร่วมกู้ทุกคน เพื่อใช้ตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้สมัครว่าถูกต้อง เช่น
- สำเนาบัตรประชาชน หรือ บัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนสมรส / หย่า / ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
2. เอกสารด้านการเงิน (แสดงรายได้) เพื่อใช้พิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ เช็กสภาพคล่องทางการเงิน และประวัติการชำระเงินที่ผ่าน ๆ มา
3. เอกสารสำหรับบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ (พนักงานบริษัท/ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ/ฟรีแลนซ์)
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน (ตัวจริง)
- สำเนารายการบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน
- สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
4. เอกสารสำหรับเจ้าของกิจการ / ธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้ร่วมกู้
- สำเนารายการบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
- สำเนาแบบแสดงภาษีซื้อขาย ภ.พ. 30 (ถ้ามี)
5. เอกสารด้านหลักประกัน เพื่อใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของบ้านที่จะนำมารีไฟแนนซ์กับธนาคาร
- สำเนาแสดงความเจ้าของหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ เป็นต้น
- สำเนาสัญญาการซื้อขายหรือให้ที่ดิน ทด. 13 หรือ 14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
- สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน
- สำเนาสัญญากู้เงินธนาคารเดิม
- สำเนาใบเสร็จเงินกู้เดือนล่าสุด
- แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป
กี่ปีถึงจะสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้
การรีไฟแนนซ์บ้านจะทำได้ก็ต่อเมื่อหมดสัญญาเงินกู้กับธนาคารแรกที่ได้ทำเรื่องขอสินเชื่อบ้านไว้แล้ว โดยปกติแล้วสัญญาเงินกู้จะมีผลบังคับอยู่ 3 ปี หากยกเลิกก่อนก็ต้องมีการเสียค่าปรับตามที่ระบุไว้ในสัญญา สรุปคร่าว ๆ การรีไฟแนนซ์บ้านสามารถทำได้ทุก ๆ 3 ปี
ส่วนคำถามที่ว่ารีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนดีนั้น ผู้กู้คงต้องพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัย เช่น รายละเอียดของสินเชื่อใหม่ อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านว่าถูกลงแค่ไหน ระยะเวลาการผ่อน เงื่อนไขของสัญญาการกู้อย่างละเอียด โปรโมชั่นที่จะทำให้ได้เปรียบ ความสะดวกในการติดต่อทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ
โดยปกติแล้วดอกเบี้ยของสินเชื่อเงินกู้บ้านจะคงที่และต่ำอยู่แค่ 1 – 2 ปีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นจะเปลี่ยนมาใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรือดอกเบี้ยแบบ MRR – ซึ่งก็ขึ้นกับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ดังนั้นการรีไฟแนนซ์บ้านสามารถทำได้มากกว่า 1 ครั้งถ้าหากพบว่าค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านโดยรวมนั้นคุ้มค่ากับการ refinance บ้านที่ธนาคารใหม่
สรุปเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน
คนที่ทำสินเชื่อบ้านอยู่นั้น หากต้องการหมดหนี้ไว ๆ และถือกรรมสิทธิ์ครอบครองบ้านเต็มตัวในเร็ววัน พร้อมมีเงินเหลือไว้ใช้ในสิ่งที่จำเป็นอื่น ๆ ก็ควรหันมาศึกษาวิธีรีไฟแนนซ์บ้าน จะได้ไม่พลาดโอกาสดี ๆ จากโปรโมชั่นที่จัดโดยธนาคารต่าง ๆ ที่มีเสนอให้ดอกเบี้ยต่ำ ๆ และ ฯลฯ
การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดดอกเบี้ยในการผ่อนชำระหนี้ในทุก ๆ เดือน ช่วยลดรายจ่ายในแต่ละเดือน แถมยังเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้ดีอีกด้วย เพียงแค่ศึกษาบทความนี้ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้มากขึ้นในการได้รับการอนุมัติจากธนาคารใหม่ที่ได้เลือกแล้วว่าดีที่สุด ณ ช่วงเวลานั้น ๆ