IELTS การทดสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ ที่คุณไม่ควรมองข้าม

สอบ IELTS

IELTS รวมถึงการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษตัวอื่น ๆ ล้วนมีความสำคัญ เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลกันแพร่หลายทั่วโลก และเป็นภาษาราชการที่ใช้ในหลายประเทศ จึงได้มีการจัดตั้งกฎเกณฑ์ที่สามารถใช้วัดระดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษให้เป็นที่ยอมรับจากองค์กร สถาบันการศึกษาในประเทศต่าง ๆ ที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสำคัญ และการทดสอบดังกล่าวต้องเข้าเกณฑ์มาตรฐานสากล

ซึ่งหนึ่งในการทดสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษก็คือ การสอบ IELTS ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกโดยเฉพาะในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ



IELTS คืออะไร และเพื่อประโยชน์อะไรบ้าง

การสอบ IELTS (International English Language Testing System) คือ การสอบที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในการทดสอบเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านว่าอยู่ในระดับใด เช่น การฟัง การอ่าน การพูด และการเขียน ของคนต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ

จุดประสงค์ของการสอบ IELTS คือ ทดสอบก็เพื่อนำไปต่อยอดสำหรับการทำงาน การศึกษาต่อ หรือการย้ายฐานที่อยู่อาศัยจากประเทศไทยนั่นเองไอเอลได้รับการยอมรับจากองค์กรภาครัฐและเอกชนทั่วโลกมากกว่า 11,000 แห่งในกว่า 140 ประเทศว่าได้มาตรฐานสากล 

ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าผู้สอบ IELTS ผ่านนั้นเป็นผู้มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ จึงเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร 


IELTS มีกี่ประเภท อะไรบ้างที่เหมาะสมกับเป้าหมาย และสมควรเลือก

IELTS นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักตามวัตถุประสงค์การใช้งานของผู้เข้ารับการทดสอบ IELTS ดังต่อไปนี้

  • IELTS Academic : เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษระดับวิชาการ สำหรับผลคะแนนที่ได้รับจากการสอบ IELTS ประเภทนี้สามารถนำไปใช้เพื่อการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีขึ้นไป หรือ สำหรับการทำงานพิเศษเฉพาะสาขาที่ต้องการความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
  • IELTS General Training : เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน ผลคะแนนที่ได้รับจากการทดสอบประเภทนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อการศึกษาต่อ ในระดับที่ต่ำกว่าปริญญาตรี ทั้งยังสามารถนำไปใช้เพื่อทำงานในองค์กรต่าง ๆ และที่สำคัญคือยังใช้ในการทำเรื่องขอยื่นวีซ่าเพื่อย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศต่าง ๆ ที่ยอมรับมาตรฐาน IELTS

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งก็คือ

  • IELTS Life Skills : ที่ใช้ทดสอบวัดระดับการพูดและการฟังของผู้สอบทำโดยผู้ทำการสอบร่วมกับอีกหนึ่งผู้สอบเข้าร่วมและตอบรับในบทสนทนาเดียวกัน ใช้รูปแบบของการใช้ชีวิต ติดต่อสื่อสารประจำวันในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

โดยเกณฑ์ที่ใช้วัดระดับมี A1, A2 และ B1 จาก The Common European Framework (CEFR) ผลคะแนนมีไว้ใช้ยื่นสมัคร UK Visa และ Immigration เพื่อเยี่ยมญาติ หรือ ต่อวีซ่าครอบครัว หรือ เพื่ออาศัยอย่างถาวร ผลสอบจะไม่ใช้เกณฑ์การให้คะแนนที่ 0-9 เหมือน 2 ประเภทแรก แต่จะเป็นแบบ ผ่าน-ไม่ผ่าน เท่านั้น

ข้อสอบ IELTS มีกี่ประเภท

รูปแบบการสอบ IELTS พร้อมรายละเอียดสำหรับการเตรียมพร้อมสอบ

IELTS แนวข้อสอบของทั้งประเภท IELTS Academic และ IELTS General Training จะมีอยู่ 4 ด้านเหมือนกัน คือ การอ่าน การเขียน การฟัง และการพูด เพียงแต่แตกต่างกันในรายละเอียดเท่านั้น ส่วนคะแนนเต็มในแต่ละด้านคือ 9 คะแนน สำหรับข้อแตกต่างจะมีดังนี้

  • การฟัง (Listening) ทั้ง 2 ประเภท IELTS Academic และ IELTS General Training จะเหมือนกัน
    • เป็นการตอบคำถามจากบทบรรยาย และบทสนทนา
      • คลิปเสียงที่ 1 เป็นบทสนทนาระหว่าง 2 คนในชีวิตประจำวัน
      • คลิปเสียงที่ 2 เป็นบทพูดของหนึ่งคนในการใช้ชีวิตประจำวัน
      • คลิปเสียงที่ 3 เป็นบทสนทนาระหว่าง 4 คนเกี่ยวกับการศึกษาอบรม
      • คลิปเสียงที่ 4 เป็นบทพูดของหนึ่งคนเกี่ยวกับหัวข้อทางวิชาการ
    • เวลาที่ใช้ 30 นาที + 10 นาทีเพื่อเขียนคำตอบในการสอบแบบกระดาษ มีทั้งหมด 40 ข้อ
  • การอ่าน (Reading)
    • สำหรับ IELTS Academic จะมีบทความขนาดยาว 3 บทความที่รวมเอาแผนผัง กราฟ หรือรูปภาพประกอบจากหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
    • สำหรับ IELTS General Training จะมีบทความขนาดสั้น 2 บทความจากเรื่องทั่วไป และขนาดยาว 1 บทความจากหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
    • เวลาที่ใช้ในการสอบ IELTS คือ 60 นาที มีทั้งหมด 40 ข้อ
  • การเขียน (Writing) จะมีการแบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ส่วนดังนี้
    • IELTS Academic
      • ส่วนที่หนึ่ง : จะเป็นการสรุป บรรยาย อธิบาย ตาราง กราฟ แผนภูมิ แผนผัง อย่างน้อย 150 คำ
      • ส่วนที่สอง : จะเป็นการเขียนเรียงความจากหัวข้อที่กำหนด อย่างน้อย 250 คำ
  • IELTS General Training
    • ส่วนที่หนึ่ง : จะเป็นการเขียนจดหมายในหัวข้อที่กำหนดเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป อย่างน้อย 150 คำ
    • ส่วนที่สอง : จะเป็นการเขียนเรียงความจากหัวข้อที่กำหนดเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป อย่างน้อย 150 คำ
  • เวลาที่ใช้ในการสอบ IELTS คือ 60 นาที มีทั้งหมด 2 ข้อ
  • การพูด (Speaking) ทั้ง 2 ประเภท IELTS Academic และ IELTS General Training จะมีรูปแบบการทดสอบที่เหมือนกันดังนี้
    • เป็นการสัมภาษณ์ตัวต่อตัวระหว่างผู้สอบและผู้คุมสอบ
    • เป็นการตอบคำถามสั้นในเรื่องทั่วไป และการบรรยายในหัวข้อที่กำหนด
    • เวลาที่ใช้ 10-15 นาที

IELTS คะแนนเต็มคือ 9.0 แต่ไม่มีคะแนนตก และสำหรับคะแนน IELTS มาตรฐานของแต่ละสถาบันหรือองค์กรจะแตกต่างกันไป เช่น หากต้องการศึกษาต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างประเทศที่อังกฤษ ออสเตรเลีย ต้องการคะแนนมากกว่า 7.5 คะแนน เป็นต้น

รูปแบบการสอบ IELTS

วิธีการสอบ IELTS ในปัจจุบันปี 2567 ที่เหมาะสมและสะดวกกับแต่ละบุคคล

สำหรับวิธีการสอบ IELTS ผู้สอบสามารถเลือกได้ 2 วิธี สำหรับ 3 ทักษะ การอ่าน การเขียน และการฟัง ของ IELTS ประเภท IELTS Academic และ IELTS General Training คือ

  • แบบกระดาษ (paper-based) ที่รับผลสอบภายใน 13 วันหลังสอบเสร็จ และ
  • แบบคอมพิวเตอร์ (computer-based) ได้รับผลหลังสอบ 5 วัน

ส่วนการสอบทักษะการพูดนั้นจะเป็นการสอบกับเจ้าของภาษาที่ได้รับอนุญาตจากศูนย์สอบ IELTS แบบ face-to-face ต่างหากโดยที่ผู้สอบสามารถทำการเลือกวันสอบเองได้

ยกเว้นการสอบ IELTS Academic แบบ Regular เท่านั้นที่สามารถเลือกสอบแบบ online โดยการใช้คอมพิวเตอร์ของตนเองที่บ้านได้ ส่วนการสอบทักษะการพูดจะเป็นลักษณะ video call กับเจ้าของภาษาในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการสอบจริง ระยะเวลารับผลสอบคือ 5-8 วันหลังสอบ


รายละเอียดการสมัครสอบ IELTS สำหรับปี 2567

การสมัครสอบ IELTS นั้น ผู้สอบต้องทำการอัปโหลดเอกสารเข้าระบบเพื่อที่จะได้สอบ IELTS เช่นสำเนาหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชนไทย โดยในวันสอบก็ให้แสดงเอกสารตัวจริง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ที่ผู้สอบควรรู้ก่อนถึงวันสอบ IELTS คือ

IELTS สามารถสมัครสอบผ่าน website ได้ 2 ที่คือ

  • britishcouncil
  • idp

ค่าสมัครสอบของ IELTS แต่ละประเภท

IELTS ค่าสอบจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเภท แต่ละวิธีที่เลือกสอบ และก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันที่รับสมัครด้วย เช่น

  • IELTS Regular ประมาณ 7,100-7,500 บาท
  • IELTS UKVI (จุดประสงค์เพื่อยื่นขอคำร้องวีซ่าสหราชอาณาจักร) ประมาณ 7,990 บาท
  • IELTS Life Skills ประมาณ 5,800-6,300 บาท

ที่ตั้งศูนย์สอบ IELTS

ปัจจุบันศูนย์สำหรับทำการทดสอบ IELTS ในประเทศไทยจะมีอยู่ที่

  • British Council ในร.ร.เซนต์คาเบรียล กรุงเทพฯ, ร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย เชียงใหม่, ร.ร.ขจรเกียรติศึกษา ภูเก็ต, ขอนแก่น, พิษณุโลก, สมุทรปราการ, ปทุมธานี, นครราชสีมา
  • IDP ที่กรุงเทพฯ, ชลบุรี, พิษณุโลก, เชียงใหม่, เชียงราย, ขอนแก่น, หาดใหญ่, นครราชสีมา, มหาสารคาม, อุบลราชธานี, สงขลา

วัน เวลาสอบ IELTS ปี 2567

การสอบ IELTS ในประเทศไทยโดยเฉพาะที่กรุงเทพฯ นั้นจะมีการจัดสอบ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ (แบบกระดาษ หรือ paper-based) โดยเป็นวันเสาร์ 3 ครั้ง และวันพฤหัสบดี 1 ครั้ง ซึ่งเท่ากับมีการจัดสอบ IELTS จำนวน 4 ครั้ง/เดือน แต่สำหรับวันที่แน่นอนให้เข้าไปดูตารางสอบที่เว็บไซด์สมัครสอบได้เลย

รายละเอียดการสอบ IELTS

สรุป IELTS ที่สามารถตอบโจทย์ผู้สมัครสอบโดยเฉพาะ

เมื่อมีความเข้าใจอย่างชัดเจนเรื่อง IELTS ว่าคือการทดสอบวัดระดับทักษะด้านภาษาอังกฤษที่เอื้อประโยชน์ให้แก่การศึกษาต่อทั้งภายในและต่างประเทศได้ทั้งระดับที่ต่ำกว่าปริญญาจนถึงขั้นสูงกว่า นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในหน้าที่การงานโดยเฉพาะงานที่เป็นสาขาเฉพาะ และยังเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับคนที่ต้องการย้ายไปอยู่ต่างประเทศ  

ผู้สมัครสอบ IELTS ควรเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการศึกษา ทำความเข้าใจรูปแบบของการสอบ IELTS พยายามเพิ่มความรู้ คำศัพท์ พัฒนาทักษะให้พร้อม ฝึกทำโจทย์พร้อมจับเวลา ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำเพื่อที่จะสอบ IELTS อีกทางเลือกก็คือหาสถาบันที่จะช่วยแก้ไขจุดอ่อน ช่วยในการฝึกฝน แนะนำเทคนิคเฉพาะที่ช่วยทำคะแนน IELTS ให้ได้สูง


รับฟรี! รวมโพสขายดี