เชื่อว่า หลาย ๆ ครอบครัว ย่อมอยากที่มีจะลูกตัวเล็ก ๆ มาเติมเต็มความอบอุ่นในครอบครัว แต่ดันติดอุปสรรคมีบุตรยาก จากปัญหาสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันได้มีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นได้ แล้วเทคโนโลยี IVF ราคาเท่าไหร่ ถ้าอยากทำ IVF จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ควรจะเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ไหนดี โดยบทความนี้ ได้รวมคำตอบไว้ให้แล้ว
ค่าใช้จ่าย ของ IVF ประมาณเท่าใด
IVF ย่อมาจาก In Vitro Fertilization หรือที่รู้จักกันในชื่อ “การทำเด็กหลอดแก้ว” เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คู่รักที่เป็นภาวะมีบุตรยาก สามารถมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพิ่มมากขึ้น โดยกระบวนการ IVF จะนำไข่ของฝ่ายหญิงมาผสมกับอสุจิของฝ่ายชายภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ เมื่อตัวอ่อนที่ได้มีการเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ แพทย์จะทำการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อรอให้ตัวอ่อนฝังตัวและเจริญเติบโตต่อไป
ค่าใช้จ่ายในการทำ IVF ในประเทศไทยนั้น ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น โรงพยาบาล แพ็กเกจที่เลือก เทคโนโลยีที่ใช้ และปัญหาความซับซ้อนของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายของ IVF ราคาเริ่มต้นประมาณ 135,000 บาท ไปจนถึง 400,000 บาท
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและใช้เวลานาน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้เป็นภาวะมีบุตรยาก แต่ผู้ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ในปัจจุบัน ก็สามารถทำ IVF ได้ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการทำ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินภาวะมีบุตรยาก อธิบายขั้นตอน ค่าใช้จ่ายราคาทำเด็กหลอดแก้ว ความเสี่ยง และโอกาสความสำเร็จอย่างรอบด้าน
ค่าใช้จ่ายของ IVF แตกต่างจาก ICSI อย่างไร
ทั้งการทำเด็กหลอดแก้วและการทำ ICSI นั้น ล้วนแต่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับผู้มีบุตรยาก แต่ทั้ง 2 วิธีมีขั้นตอนกระบวนการ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน โดยค่าใช้จ่ายในการทำ IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้ว จะเริ่มต้นประมาณ 135,000 บาท ไปจนถึง 400,000 บาท ในขณะที่การทำ ICSI จะเริ่มต้นประมาณ 200,000 บาท ซึ่ง ICSI มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เพราะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์มากกว่าการทำ IVF ทั้งนี้ ICSI และการทำเด็กหลอดแก้ว ราคาขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น
- โรงพยาบาล โดยทั่วไปแล้ว โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง หรือโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองใหญ่ จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
- แพ็กเกจ IVF มีหลายแบบ แต่ละแบบมีบริการที่แตกต่างกัน จึงมีค่าใช้จ่ายในการทำ IVF ที่แตกต่างกัน
- หารใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ICSI PGD จะเพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- กรณีที่มีภาวะมีบุตรยากบางอย่าง อาจต้องใช้ยาหรือเทคนิคพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งจะเพิ่มค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเช่น กรณีที่มีจำนวนอสุจิน้อย อาจต้องใช้เทคนิค ICSI, กรณีที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีลูกที่เป็นโรคทางพันธุกรรม อาจต้องใช้เทคนิค PGD
- โอกาสในการตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนรอบการรักษา ซึ่งแต่ละรอบการรักษาจะมีค่าใช้จ่ายในการทำ IVF เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- การทำ IVF ราคาค่าใช้จ่ายบางส่วน อาจจะขึ้นอยู่กับยากระตุ้นไข่ด้วย เพราะยาบางชนิดมีราคาแพง
- ในบางกรณีอาจเกิดผลข้างเคียงจากการรักษา เช่น ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยา ซึ่งอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการรักษา
ใครเหมาะกับการทำเด็กหลอดแก้ว IVF
การทำเด็กหลอดแก้วหรือการทำ IVF เหมาะสำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาจากสาเหตุและความเหมาะสม ดังนี้
- กรณีที่เหมาะกับการทำ IVF
- ฝ่ายหญิงมีปัญหา เช่น ท่อนำไข่อุดตันหรือท่อนำไข่ถูกทำลาย, ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, ภาวะไม่ตกไข่หรือไข่ตกช้า, ปัญหาคุณภาพของไข่ เช่น ไข่น้อย ไข่แก่, โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน
- ฝ่ายชายมีปัญหา เช่น จำนวนอสุจิน้อย, ตัวอสุจิอ่อนแอหรือผิดปกติ, การอุดตันของท่อส่งอสุจิ เป็นต้น
- ต้องการคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของทารกก่อนการตั้งครรภ์
- ผู้หญิงที่ต้องการฝากไข่
- กรณีที่ไม่เหมาะกับการทำ IVF
- มดลูกมีปัญหา เช่น มดลูกมีขนาดเล็ก มีเนื้องอก
- โรคทางระบบฮอร์โมนบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น HIV ซิฟิลิส
- ปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์
ข้อดีของการทำเด็กหลอดแก้ว IVF
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสำหรับผู้เป็นภาวะมีบุตรยาก โดยมีข้อดีของการทำ IVF ดังนี้
- เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ เพราะ IVF เหมาะสำหรับผู้มีบุตรยากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ เช่น ท่อนำไข่ตัน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ จำนวนอสุจิน้อย รวมถึงผู้หญิงที่ทำหมันแล้วก็สามารถทำได้
- แพทย์สามารถตรวจโครโมโซมของตัวอ่อน (PGD) เพื่อคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม โรคธาลัสซีเมีย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการคลอดบุตรที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
- ผู้หญิงสามารถเก็บไข่ไว้ได้ก่อนวัยหมดประจำเดือน หรือผู้ชายที่มีปัญหาการผลิตอสุจิ สามารถเก็บน้ำเชื้อไว้ใช้ในอนาคตได้
- การทำ IVF เป็นเทคโนโลยีที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ไม่มีการผ่าตัด จึงลดโอกาสเสี่ยงต่าง ๆ จากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ, การอักเสบ เป็นต้น
ความเสี่ยงในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF
นอกจากข้อดีของการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แล้ว อย่างไรก็ตาม การทำ IVF ยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยง ดังนี้
- อาจเกิดผลข้างเคียง จากยาที่ใช้กระตุ้นไข่ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์แปรปรวน ท้องอืด รวมถึงอาการปวดท้อง ตกเลือด หรือติดเชื้อจากการเก็บไข่และย้ายตัวอ่อน
- เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS), การแท้งบุตร
- เกิดปัญหากับบุตร เช่น ความผิดปกติของโครโมโซม, ภาวะออทิสติก, ภาวะความผิดปกติทางสติปัญหา, ความผิดปกติโดยกำเนิด เป็นต้น
- มีปัญหาในการตั้งครรภ์ เช่น การตั้งครรภ์แฝด, ท้องนอกมดลูก เป็นต้น
- การทำ IVF เป็นกระบวนการที่ยาวนานและซับซ้อน อาจทำให้คู่สมรสรู้สึกเครียด วิตกกังวล เกิดความกดดันจากการคาดหวังผลลัพธ์ จนอาจทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส
- การทำ IVF ราคาค่าใช้จ่ายสูง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น โรงพยาบาล แพ็กเกจที่เลือก เทคโนโลยีที่ใช้ ค่าใช้จ่ายอาจไม่รวมอยู่ในประกันสุขภาพ
สรุปการทำ IVF ราคาเท่าไหร่
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้มีบุตรยากจากหลาย ๆ สาเหตุ รวมถึงผู้ที่ยังไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ในปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้มีโอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้น ช่วยคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม และไม่มีการผ่าตัด จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง โดยทั่วไปแล้ว การทำ IVF ราคาเริ่มต้นประมาณ 135,000 บาท ไปจนถึง 400,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล ความเชี่ยวชาญของแพทย์ บริการเสริม และปัญหาสุขภาพของคู่รัก