ดนตรีแจ๊สมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงวิวัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง ถือเป็นแนวเพลงที่มีอิทธิพล ทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากที่สุดแนวหนึ่งในโลกแห่งดนตรี การผสมผสานระหว่างจังหวะ ทำนอง ไปจนถึงการแสดงด้นสด อันเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดผู้ฟังมานานกว่าศตวรรษ บทความนี้เจาะลึกถึงเกี่ยวกับของดนตรีแจ๊สกันให้มากยิ่งขึ้น มาสำรวจต้นกำเนิด ประเภทของวงดนตรี แจ๊ส ที่ทำให้ดนตรีแจ๊สได้รับการยอมรับในระดับสากล
ดนตรีแจ๊ส คืออะไร
ดนตรีแจ๊ส คือแนวเพลงที่โดดเด่นด้วยการเน้นการแสดงด้นสด จังหวะที่ซับซ้อน ทั้งยังมีการประสานกันอย่างลงตัว ประวัติ ดนตรีแจ๊สเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในนิวออร์ลีนส์ ซึ่งเป็นที่ที่มีประเพณีทางดนตรีที่หลากหลายมาบรรจบกัน ดนตรีแจ๊สผสมผสานองค์ประกอบจากดนตรีแอฟริกัน บลูส์ แร็กไทม์ รวมถึงดนตรีคลาสสิกของยุโรป ทำให้เกิดเสียงที่เข้มข้นและหลากหลาย
สำหรับองค์ประกอบหลักของดนตรีแจ๊ส ได้แก่
- การแสดงด้นสด หัวใจของดนตรีแจ๊สคือการด้นสด ซึ่งนักดนตรีสร้างสรรค์ท่วงทำนองเข้ากับการประสานเสียงอย่างเป็นธรรมชาติภายในกรอบของเพลง สิ่งนี้ทำให้การแสดงแต่ละครั้งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยให้สามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของนักดนตรีแจ๊ส
- การซิงโครไนซ์ ดนตรีแจ๊สมักมีจังหวะที่ซิงโครไนซ์กัน โดยเน้นที่จังหวะที่ไม่คาดคิด สิ่งนี้สร้างความรู้สึกของดนตรีสวิง หรือกรู๊ฟ ซึ่งเป็นแก่นสารของแนวเพลงดนตรีแจ๊ส
- ความรู้สึกสวิง สวิงเป็นจังหวะที่โดดเด่นในดนตรีแจ๊ส โดยมีการเล่นโน้ตในความรู้สึกแบบแฝด ทำให้ดนตรีมีคุณภาพที่มีชีวิตชีวา ดูกระฉับกระเฉง
- โน้ตเพลงบลูส์ นักดนตรีแจ๊สมักใช้โน้ตดนตรีบลูส์ เสียงที่แบน หรือโค้งงอเล็กน้อย ช่วยเพิ่มมิติความลึก ทั้งสร้างอารมณ์ให้กับการแสดงดนตรีได้อีกด้วย
ประวัติตามเป็นมาของดนตรีแจ๊ส เกิดขึ้นได้อย่างไร
ประวัติ ดนตรีแจ๊ส เริ่มจากมีต้นกำเนิดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม จึงทำให้เกิดดนตรีที่มีชีวิตชีวาหลากหลายแนว นิวออร์ลีนส์เป็นแหล่งรวมประเพณีดนตรีของชาวแอฟริกัน แคริบเบียน ยุโรป ไปจนถึงละตินอเมริกามาบรรจบกัน ทำให้เกิดพื้นที่อุดมไปด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย จนเกิดการสังเคราะห์ทางวัฒนธรรมขึ้น
ด้วยดนตรีแจ๊ส หมายถึงการผสมผสานกับจิตวิญญาณแห่งการเฉลิมฉลองกับความรักในงานรื่นเริง ได้วางรากฐานสำหรับสิ่งที่จะกลายเป็นดนตรีแจ๊ส โดยดนตรีแจ๊สในยุคแรก จะดึงเอาแนวเพลงบลูส์มาใช้อย่างมาก โดยมีความลึกซึ้งทางอารมณ์ โครงสร้างที่เรียบง่าย รวมถึงแร็กไทม์ซึ่งเป็นที่รู้จักจากจังหวะที่ประสานกันกับท่วงทำนองที่ขับเคลื่อนด้วยเปียโน
ในช่วงทศวรรษที่ 1920 หรือที่มักเรียกกันว่ายุคดนตรีแจ๊ส ถือเป็นช่วงที่ดนตรีแจ๊สแพร่หลาย รวมถึงมีการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์กันมากยิ่งขึ้น นักดนตรีแจ๊ส เช่น Louis Armstrong, Duke Ellington และ Jelly Roll Morton เริ่มมีชื่อเสียงในระดับชาติ โดยการแสดงในคลับ หรือโรงละครทั่วสหรัฐอเมริกา ยุคนี้ยังเห็นการอพยพของนักดนตรีแจ๊สไปยังเมืองทางตอนเหนือ เช่น ชิคาโกและนิวยอร์ก ซึ่งพวกเขาได้พบกับผู้ฟังและโอกาสใหม่ ๆ
การเกิดขึ้นของแผ่นเสียงทางวิทยุ กับแผ่นเสียงนั้น ช่วยให้ดนตรีแจ๊สเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น โดยนำจังหวะที่มีชีวิตชีวามาสู่บ้านเมืองทั่วประเทศ ยุคดนตรีแจ๊สเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของจิตวิญญาณของ Roaring Twenties ซึ่งสะท้อนถึงพลวัตทางวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของยุคนั้น
ดนตรีแจ๊สมีกี่ประเภท มีประเภทใดบ้างที่ได้รับความนิยม ที่คุณควรรู้จัด
เมื่อคุณทราบแล้วว่าดนตรีแจ๊ส คืออะไร ประวัติ ดนตรีแจ๊สมีที่มาอย่างไร ด้วยดนตรีแจ๊ส หมายถึงเพลงที่โดดเด่นด้วยการเน้นการแสดงด้นสด จังหวะที่ซับซ้อน จึงมีความครอบคลุมหลากหลายสไตล์ โดยแต่ละสไตล์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงเกิดคำถามที่พบบ่อยว่า ดนตรีแจ๊สมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ต่อไปนี้เป็นดนตรีแจ๊สประเภทยอดนิยมที่คุณควรรู้ ได้แก่
- New Orleans Jazz หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dixieland สไตล์นี้มีต้นกำเนิดในนิวออร์ลีนส์ มีการนำเสนอด้วยการแสดงด้นสด จังหวะที่สนุกสนาน ผสมกับท่อนจังหวะที่หนักแน่น
- Swing โดดเด่นด้วยการเรียบเรียงวงดนตรีขนาดใหญ่ เพลงสวิงเน้นจังหวะหนักแน่น เป็นจังหวะที่สามารถเต้นได้ มันเป็นสไตล์ที่โดดเด่นในช่วงทศวรรษที่ 1930 ถึง 1940
- Bebop สไตล์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อนซึ่งถือกำเนิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1940 บีบอปประกอบด้วยท่วงทำนองที่สลับซับซ้อน การเปลี่ยนคอร์ดอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแสดงด้นสดอันชาญฉลาด
- Cool Jazz เป็นที่รู้จักในเรื่องจังหวะที่ผ่อนคลาย มาพร้อมโทนเสียงที่เบา วงดนตรี แจ๊สคูลถือกำเนิดขึ้นในทศวรรษ 1950 มีความเกี่ยวข้องกับนักดนตรีแจ๊สฝั่งตะวันตก
- Hard Bop เป็นพัฒนาการของบีบ็อพ ที่มีการรวมกับองค์ประกอบของจังหวะบลูส์ กอสเปล และบลูส์ ฮาร์ดบ็อบมีชื่อเสียงในด้านเสียงที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ มีความเป็นธรรมชาติ
- Modal Jazz สไตล์นี้เน้นไปที่การแสดงด้นสด โดยใช้สเกลโมดอลมากกว่าความก้าวหน้าของคอร์ด “Kind of Blue” ของ Miles Davis เป็นอัลบั้มที่โดดเด่นในดนตรีแจ๊สแบบโมดัล
- Hard Bop ดนตรีแจ๊สฟรีนั้น แยกตัวออกจากดนตรีแจ๊สแบบดั้งเดิม โดยเปิดรับความเป็นเอกเทศ ความไม่ลงรอยกัน รวมถึงการแสดงด้นสดเข้าด้วยกัน เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 โดยมีศิลปินอย่าง Ornette Coleman และ John Coltrane
- Modal Jazz การผสมผสานดนตรีแจ๊สเข้ากับดนตรีร็อค ฟังค์ หรืออิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีแจ๊ส ประวัติเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1960 และ 1970 มีความโดดเด่นด้วยการใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้า ผสมกับจังหวะที่ซับซ้อน
- Latin Jazz เป็นการผสมดนตรีแจ๊ส เครื่องดนตรีของละตินอเมริกาเข้าด้วยกัน แจ๊สละตินผสมผสานดนตรีแจ๊สสด เข้ากับดนตรีแอฟโฟรคิวบาและบราซิล
- Contemporary Jazz ดนตรีแจ๊สสมัยใหม่ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยผสมผสานองค์ประกอบจากแนวเพลงต่าง ๆ เพื่อก้าวข้ามขอบเขตของดนตรีแจ๊สแบบดั้งเดิม
สรุป
ดนตรีแจ๊ส เป็นดนตรีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งยังมีสไตล์ที่หลากหลาย เป็นแนวเพลงที่มีชีวิตชีวา จากจุดเริ่มต้นในนิวออร์ลีนส์จนได้รับความนิยมระดับโลกในปัจจุบัน วงดนตรี แจ๊สมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและสังคมในแต่ละยุคสมัย
