ฟิลเลอร์ปากปรับทรงสวยดังใจ เทรนด์ล่าสุดกับทรงปากยอดฮิต

ฟิลเลอร์ปาก

การปรับริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ทรงสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยฟิลเลอร์ปากเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาปากบาง ปากไม่ได้รูป ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่สมส่วน หรือมีปัญหาปากแห้งและปากแตกร่วมด้วย ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ

บทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากแบบไหน พร้อมแนะนำทรงปากยอดฮิตที่เข้ากับใบหน้า รับรองว่าสวยปัง ดึงดูดทุกสายตาแน่นอน!

ฟิลเลอร์ปากดียังไง เหมาะกับใครบ้าง

ฟิลเลอร์ปาก คือ

ฟิลเลอร์ปากคือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง โดยข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปากมีดังนี้ 

  • ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น 
  • สามารถปรับรูปทรงปากให้เข้ากับรูปหน้า เช่น ยกมุมปากให้เชิดขึ้น แก้ไขริมฝีปากบาง 
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบริมฝีปากให้ดูจางลง 
  • ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากรุ่นใหม่มีความละเอียด เนื้อสัมผัสเหมือนริมฝีปากจริง สามารถปรับรูปปากให้ดูเป็นธรรมชาติได้
  • เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 30 นาที 
  • ผลลัพธ์คงอยู่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 

H3 ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร? 

  • ผู้ที่มีริมฝีปากบาง 
  • ผู้ที่มีริ้วรอยรอบริมฝีปาก 
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปปากให้เข้ากับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • ผู้ที่ต้องการริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น 
  • ผู้ที่ริมฝีปากไม่เท่ากัน
  • ผู้ที่มีปัญหาปากแห้ง ปากแตก ทาลิปสติกแล้วตกร่อง

ฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ก่อนฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก หลายคนคงมีคำถามคาใจว่า “ฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม?” และ “ก่อนฉีดต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?” เราจะมาช่วยไขข้อสงสัยเหล่านั้นให้กระจ่าง 

ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม? 

โดยปกติแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือในบางรายก็ไม่เจ็บเลย เนื่องจากก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์จะทายาชาก่อนเพื่อลดความเจ็บจากการฉีดฟิลเลอร์ ทำให้ระหว่างฉีดฟิลเลอร์จะรู้เจ็บได้น้อยมาก แต่จะมีอาการตึง ๆ ที่ปากเล็กน้อยเมื่อยาชาหมดฤทธิ์ และอาการบวมสามารถหายไปได้เองภายใน 5-7 วัน 

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและปลอดภัย ควรเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ดังนี้ 

  1. เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับความต้องการ รูปทรงปากที่เหมาะกับรูปหน้า รวมถึงสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น การดูแลตนเอง ข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติหลังฉีด แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และยาที่กำลังรับประทานอยู่ 
  2. งดวิตามินและอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา และยาแอสไพริน 1 อาทิตย์ก่อนการฉีด 
  3. งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
  4. เตรียมรูปทรงปากที่ต้องการมาให้แพทย์ดูและพิจารณาความเหมาะสม

ฉีดฟิลเลอร์ปรับทรงปาก นิยมทำทรงไหนบ้าง?

เติมฟิลเลอร์ปาก

เมื่อพูดถึงฟิลเลอร์ปาก หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นการเติมฟิลเลอร์ปากให้อวบอิ่ม เพิ่มความหนา แต่จริง ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นสามารถทำได้หลายทรง รวมทั้งยังฉีดปากกระจับได้อีกด้วย โดยทรงปากยอดฮิต ได้แก่

  • ทรงปากกระจับ (M-Lip) 

ทรงปากกระจับ เป็นทรงปากยอดนิยมตลอดกาล โดดเด่นด้วยรูปทรงโค้งมนคล้ายตัว M ให้ลุคดูละมุนเซ็กซี่ และน่ารัก เหมาะกับสาว ๆ ทุกสไตล์ 

  • ทรงปากหยัก (W-Lip)

ทรงปากหยัก หรือปากกระจับหยัก มีลักษณะคล้ายทรงปากกระจับ แต่มีรอยหยักตรงกลางริมฝีปากบนจนมีลักษณะคล้ายตัว W เพิ่มความโดดเด่น เซ็กซี่ และดูมีเสน่ห์ให้กับริมฝีปากได้เป็นอย่างมาก 

  • ทรงปากอวบอิ่ม (Full Lip)

ทรงปากอวบอิ่มที่ได้รับความนิยมมากในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา เป็นการเน้นการเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการลุคสดใส ดูสุขภาพดี อีกทั้งฟิลเลอร์ปากอิ่มยังทำให้ทาลิปสติกสวยอีกด้วย

  • ทรงปากสายฝอ (Russian Lip)

ทรงปากสายฝอ หรือปากกระจับสายฝอ มีลักษณะริมฝีปากบนบาง ริมฝีปากล่างอวบอิ่ม โค้งมน ให้ลุคดูเซ็กซี่ เฉี่ยว และทันสมัย 

  • ทรงปากธรรมชาติ (Natural Lip)

ทรงปากธรรมชาติ เน้นการปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูโดดจนเกินไป เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการลุคใส ๆ

เคล็ดลับเลือกทรงปากให้เหมาะกับรูปหน้า

  • รูปหน้าเหลี่ยม : ควรเลือกทรงปากโค้งมน เช่น ทรงปากกระจับ หรือทรงปากหยัก เพื่อช่วยลดเหลี่ยมมุมบนใบหน้า ให้ใบหน้าดูหวานขึ้น
  • รูปหน้ากลม : ควรเลือกทรงปากที่มีเหลี่ยมมุมหรือทรงปากรูปหัวใจ เช่น ทรงปากสายฝอ เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น 
  • รูปหน้ายาว : ควรเลือกทรงปากที่มีความอิ่มเอิบ เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูสั้นลง 
  • รูปหน้าไข่ : สามารถเลือกทรงปากได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบ

แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ควรใช้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก 

ปากสวย อวบอิ่ม เป็นเสน่ห์ที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับทุกคนได้ ฟิลเลอร์ปากจึงกลายเป็นเทรนด์ความงามยอดนิยม แต่ด้วยความหลากหลายของยี่ห้อฟิลเลอร์ปาก หลายคนจึงอาจเกิดความลังเล วันนี้เราจึงมาอัปเดตยี่ห้อฟิลเลอร์ปากยอดนิยม 2024 เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

  • Juvederm Volbella : ฟิลเลอร์เนื้อบาง เหมาะกับการเติมเต็มริมฝีปาก เพิ่มวอลลุ่มปาก ฉีดปากกระจับ ฉีดปากสายฝอ ปรับรูปทรงปาก  
  • Restylane KYSSE : ฟิลเลอร์ปากอิ่มเนื้อนุ่ม ฉีดง่าย มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดปากทุกทรง  
  • Belotero Balance : ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เหมาะกับการฉีดปากแบบสายฝอ เน้นความเซ็กซี่ อวบอิ่ม  

ฉีดฟิลเลอร์ปากใช้กี่ cc 

ปริมาณฟิลเลอร์ปากที่ใช้สำหรับการฉีดปากนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  1. รูปปากเดิม : หากมีริมฝีปากบาง อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ปากประมาณ 2 cc แต่ถ้าริมฝีปากค่อนข้างอิ่มอยู่แล้ว อาจใช้เพียง 1 cc ก็เพียงพอ  
  2. ความต้องการ : บางคนอาจต้องการแค่เติมเต็มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่บางคนอาจต้องการให้ริมฝีปากดูโดดเด่น เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ก็จะแตกต่างกันไป  
  3. ชนิดของฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ปากแต่ละชนิดมีความหนาแน่นต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อปริมาณที่ต้องใช้  

ดังนั้น ปริมาณฟิลเลอร์ปาก แพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และทำให้ปากไม่ดูแข็งเกินไป

ฉีดฟิลเลอร์ปากดีจริงไหม?

ฟิลเลอร์ ราคา

ริมฝีปากอิ่มสวย เป็นรูปทรง ถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่หลายคนใฝ่ฝัน การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกรูปทรงปากได้อย่างหลากหลายเพื่อให้เหมาะกับรูปหน้าของเราเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องของการฟิลเลอร์ปากปากกระจับ การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากสวย และมีการเตรียมความพร้อมให้ดี เพื่อผลลัพธ์หลังการฉีดที่ตรงใจมากที่สุด

รับฟรี! รวมโพสขายดี