ส่งของไปอังกฤษอย่างไรให้ราบรื่น? แนะนำเรื่องควรรู้ในการส่งพัสดุไปปลายทางอังกฤษ

ส่งของไปอังกฤษ

การส่งของข้ามประเทศในปัจจุบันนับว่าได้รับความนิยมอย่างมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะในแถบยุโรปหนึ่งในประเทศที่คนนิยมส่งของไปก็คืออังกฤษ ซึ่งการส่งของไปอังกฤษอาจดูซับซ้อนสำหรับหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราค่าส่ง เอกสารที่ต้องเตรียม ค่าภาษี หรือข้อจำกัดในการส่งสินค้า เพื่อให้คุณส่งของไปอังกฤษได้ง่ายยิ่งขึ้นและไร้กังวล

บทความนี้เราจะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งพัสดุไปอังกฤษ ตั้งแต่อัตราค่าส่ง การเตรียมเอกสารที่จำเป็น วิธีคำนวณค่าภาษี ตลอดจนของห้ามนำเข้าอังกฤษที่ควรรู้ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถึงปลายทางหรือถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย และไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง



ส่งของไปอังกฤษ คิดอัตราค่าส่งอย่างไร? 

การคิดอัตราค่าส่งของไปอังกฤษจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักและขนาดของพัสดุ ประเภทการขนส่ง (ทางอากาศหรือทางเรือ) ความเร่งด่วนของการจัดส่ง หรือบริการเพิ่มเติมต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ จะใช้การคำนวณค่าส่งตามน้ำหนักจริงหรือน้ำหนักเชิงปริมาตร (Volumetric Weight) โดยจะใช้อัตราค่าส่งที่สูงกว่าโดยเปรียบเทียบระหว่างน้ำหนักจริงและน้ำหนักปริมาตร 

ตัวอย่างการคำนวณอัตราค่าส่ง : หากต้องการส่งของจากไทยไปอังกฤษ โดยน้ำหนักพัสดุที่ต้องการจัดส่งจริงคือ 15 กิโลกรัม ขนาดกล่องพัสดุ กว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร

คำนวณหาน้ำหนักตามปริมาตรได้จากสูตร

  • ความกว้าง x ความยาว x ความสูง ของขนาดกล่องพัสดุ (เซนติเมตร) ÷ 5,000 = น้ำหนักปริมาตร (กิโลกรัม)
  • 30 x 50 x 30 ÷ 5,000 = 9 กิโลกรัม

เมื่อเปรียบเทียบน้ำหนักพัสดุจริงและน้ำหนักตามปริมาตรแล้ว จะเห็นว่าน้ำหนักของพัสดุจริงมากกว่าน้ำหนักตามปริมาตร ดังนั้น ค่าขนส่งของไปอังกฤษในครั้งนี้จะถูกพิจารณาตามน้ำหนักของพัสดุจริง โดยคิดตามน้ำหนักอยู่ที่ 15 กิโลกรัมนั่นเอง


ส่งของไปอังกฤษ มีเอกสารอะไรบ้างที่ต้องจัดเตรียมให้พร้อม? 

หลายคนที่ต้องการส่งของไปอังกฤษด้วยตัวเอง หรือกำลังมองหาบริการชิปปิ้งไปที่ประเทศอังกฤษ อาจกังวลเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการขนส่ง เนื่องจากการส่งของไปอังกฤษจำเป็นต้องจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อให้กระบวนการขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นที่ด่านศุลกากร โดยเอกสารที่จำเป็นมีดังนี้ 

  1. ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) ที่ระบุรายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อสินค้า, ปริมาณ, มูลค่า หรือข้อมูลผู้ส่งและผู้รับ เพื่อใช้ในการประเมินภาษีและผ่านพิธีการศุลกากร
  2. ใบตราส่งสินค้า (Air Waybill/Shipping Label) เป็นเอกสารจากผู้ให้บริการขนส่ง ใช้ระบุเส้นทางการขนส่ง รวมถึงข้อมูลการติดตามพัสดุ
  3. ใบอนุญาตนำเข้าส่งออก (Import/Export License) หากเป็นสินค้าที่ต้องได้รับอนุญาตพิเศษ เช่น อาหาร เครื่องสำอาง หรือสินค้าอันตราย ควรตรวจสอบว่าต้องใช้ใบอนุญาตเฉพาะหรือไม่
  4. เอกสารแสดงแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) ในบางกรณี เช่น การส่งสินค้าเชิงพาณิชย์หรือสินค้าบางประเภท อาจต้องใช้เอกสารนี้เพื่อยืนยันแหล่งผลิตสินค้า
  5. ใบรายการบรรจุภัณฑ์ (Packing List) ใช้สำหรับระบุรายละเอียดการบรรจุสินค้า เช่น จำนวนกล่อง น้ำหนัก หรือขนาดของพัสดุ เพื่อช่วยในการตรวจสอบและขนย้ายสินค้า

ค่าภาษีสำหรับส่งของไปอังกฤษ คิดอย่างไร? 

ส่งพัสดุไปอังกฤษ

การคำนวณภาษีสำหรับส่งของไปอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้ไว้ โดยวิธีการคำนวณค่าภาษีสำหรับการส่งของจะขึ้นอยู่กับประเภทและมูลค่าของสินค้า สินค้าที่นำเข้าจะต้องเสียภาษีนำเข้า (Import Duty) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ดังนี้ 

  • อัตราภาษีนำเข้าจะแตกต่างกันไปตามประเภทสินค้า เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออาหาร ซึ่งสามารถตรวจสอบอัตราภาษีได้จากเว็บไซต์ HM Revenue and Customs (HMRC) ของอังกฤษ 
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จะคิดในอัตรามาตรฐาน 20% ของมูลค่าสินค้า บวกค่าขนส่งและค่าประกันภัย (ถ้ามี) ทั้งนี้ หากมูลค่าสินค้าต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อาจได้รับการยกเว้นภาษีบางส่วนหรือทั้งหมด 

ดังนั้น การตรวจสอบข้อมูลและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียค่าปรับหรือความล่าช้าในการขนส่งพัสดุไปยังประเทศอังกฤษได้ 


ส่งของไปอังกฤษ มีอะไรบ้างที่ส่งไม่ได้? 

เนื่องจากการส่งของไปอังกฤษมีกฎระเบียบเข้มงวดเกี่ยวกับสิ่งของที่ห้ามส่งเข้าประเทศ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการละเมิดกฎหมาย ผู้ที่ต้องการส่งของไปอังกฤษจึงต้องศึกษาทำความเข้าใจไว้ โดยตัวอย่างสิ่งของที่ห้ามนำเข้าอังกฤษมีดังนี้ 

  • สิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด, สารเสพติด, อาวุธปืน, อาวุธมีคม หรือวัตถุระเบิด
  • สิ่งของอันตราย เช่น สารเคมีที่เป็นพิษ, วัตถุไวไฟ, แบตเตอรี่ลิเธียมบางประเภท หรืออุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่
  • อาหารและสินค้าที่มาจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ นม ชีส หรือผลิตภัณฑ์สดจากสัตว์ (ยกเว้นสินค้าแปรรูปที่ผ่านมาตรฐานการนำเข้า)
  • สิ่งของปลอมแปลงและละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า หรือสินค้าที่เลียนแบบแบรนด์ดังโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอางบางประเภท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใบรับรองมาตรฐานหรือไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สรุป ส่งของไปอังกฤษอย่างสะดวก รวดเร็ว ทำอย่างไร? 

การส่งของไปอังกฤษให้ราบรื่นและไม่มีปัญหาจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณอัตราค่าส่ง การจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น การทำความเข้าใจเรื่องค่าภาษี และการตรวจสอบสิ่งของต้องห้ามนำเข้าอังกฤษ เพื่อให้การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ควรเลือกใช้บริการขนส่งที่เชื่อถือได้ พร้อมทั้งตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขการนำเข้าสินค้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ การวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าพัสดุหรือสินค้าที่จัดส่งไปจะถึงมือผู้รับในอังกฤษได้อย่างราบรื่น

ต้องการส่งของไปประเทศอื่น ๆ สามารถศึกษารายละเอียดการขนส่งเพิ่มเติมได้ที่ : ส่งของไปญี่ปุ่น ส่งของไปจีน หรือ ส่งของไปอเมริกา

รับฟรี! รวมโพสขายดี