
สำหรับใครที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย การติว TGAT ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแล้ว การติว TGAT จะช่วยให้เราเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนสอบสำหรับการคัดเลือกเข้าสู่มหาวิทยาลัยที่แต่ละคนใฝ่ฝันถึงได้ ดังนั้น ใครที่กำลังต้องการเริ่มต้นติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย การเรียนคอร์ส TGAT กับสถาบันกวดวิชาที่น่าเชื่อถือ นับเป็นทางเลือกที่ดีในการเตรียมความพร้อม เพื่อติวเข้ามหาลัยที่คาดหวังไว้ บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการติว TGAT ว่าคืออะไร และสำคัญอย่างไรต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ทำความรู้จักกับการติว TGAT
สำหรับใครที่กำลังมีคำถามว่า “เรียนอังกฤษที่ไหนดี สำหรับสอบเข้ามหาลัย?” การติว TGAT ถือเป็นตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี การสอบ TGAT (Thai General Aptitude Test) หรือ การสอบวัดความถนัดทั่วไป เป็นส่วนหนึ่งของข้อสอบสำหรับผู้ที่ประสงค์จะเข้าระบบ TCAS (Thai University Central Admission System) หรือระบบการคัดเลือกกลางเพื่อคัดบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา โดยผลคะแนนจากการสอบ TGAT จะถูกนำมาพิจารณาคัดเลือกในแต่ละรอบการสมัครของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ โดยเฉพาะในรอบ Admission ที่ผลคะแนนเหล่านี้จะถูกนำมาประเมินร่วมกันในระบบกลาง
การติว TGAT ผู้เรียนจะได้ทำความคุ้นเคยกับลักษณะและหัวข้อของข้อสอบในส่วนต่าง ๆ รวมไปถึงการพัฒนาทักษะความรู้ความเข้าใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษ และคำศัพท์ที่ควรรู้ ทั้งนี้ ข้อสอบ TGAT จะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ การสื่อสารภาษาอังกฤษ การคิดอย่างมีเหตุผล และสมรรถนะการทำงาน รวมคะแนนทั้งสามส่วน 300 คะแนนเต็ม จะเห็นได้ว่าการติว TGAT ถือเป็นการติวเตอร์เข้ามหาลัยที่สำคัญมาก ผู้ที่เตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ ย่อมได้เปรียบกว่าผู้ที่ไม่ได้ติว TGAT มาก่อนเลย
การติว TGAT เหมาะกับใคร
การติว TGAT โดยทั่วไปแล้วเหมาะสำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ยกตัวอย่างเช่น
- ผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาในคณะหรือสาขาวิชาที่ใช้คะแนน TGAT เป็นหลักในการประเมิน เช่น
- คณะมนุษยศาสตร์/สังคมศาสตร์
- คณะจิตวิทยา
- คณะนิเทศศาสตร์
- คณะรัฐศาสตร์/นิติศาสตร์
- คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์
- ผู้ต้องการเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกเข้ามหาวิทยาลัย เนื่องจาก TGAT เป็นข้อสอบที่ใช้วัดความถนัดทั่วไป ซึ่งหลายคณะนำคะแนนส่วนนี้ไปใช้ในการพิจารณารับเข้าศึกษา
- ผู้ที่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกเรียนคณะใด คอร์สเรียน TGAT จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการสมัครเข้าศึกษาต่อได้หลากหลายคณะมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ซึ่งมักจะใช้คะแนน TGAT เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือก
ติว TGAT ต่างจากติว TPAT หรือ A-Level อย่างไร

การติว TGAT, TPAT และ A-Level มีความแตกต่างกันในด้านเนื้อหาและจุดประสงค์ของการสอบ ดังนี้:
TGAT (Thai General Aptitude Test)
- เน้นการวัดความถนัดทั่วไป
- ทดสอบทักษะการสื่อสารภาษาไทย การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
- เหมาะสำหรับทุกคณะ/สาขาวิชา โดยเฉพาะสายมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
TPAT (Thai Professional Aptitude Test)
- วัดความถนัดเฉพาะวิชาชีพหรือวิชาการ
- แบ่งเป็น 5 ประเภท ตามกลุ่มสาขาวิชา:
- TPAT1: วิชาเฉพาะ ครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์
- TPAT2: วิชาเฉพาะ ศิลปกรรมศาสตร์
- TPAT3: วิชาเฉพาะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์
- TPAT4: วิชาเฉพาะ สถาปัตยกรรมศาสตร์
- TPAT5: วิชาเฉพาะ แพทยศาสตร์ กายภาพบำบัด เทคนิคการแพทย์ ฯลฯ
- เนื้อหาการสอบจะเฉพาะเจาะจงตามสาขาวิชาชีพ
A-Level (Advanced Level)
- ติว A-Level เป็นการสอบวัดความรู้เชิงวิชาการในระดับสูง
- ครอบคลุมวิชาพื้นฐานหลายวิชา เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา
- เน้นเนื้อหาที่เรียนในระดับมัธยมปลาย
- ใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในคณะ/สาขาวิชาที่ต้องการความรู้พื้นฐานเฉพาะด้าน
ควรติว TGAT ในทักษะใดบ้าง
การติว TGAT จำเป็นต้องใช้ทักษะหลายอย่างในการสอบ โดยเฉพาะทักษะภาษาอังกฤษ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ข้อสอบ TGAT จะถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ ซึ่งแต่ละส่วนผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องใช้ทักษะที่แตกต่างกันไป โดยรายละเอียดสำหรับการติว TGAT ในแต่ละส่วน มีดังนี้
การสื่อสารภาษาอังกฤษ
การติวอังกฤษเข้ามหาลัยสำหรับ TGAT เป็นข้อสอบแบบปรนัย ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่
- ทักษะการพูด (Speaking Skill) 50 คะแนน
- การถาม-ตอบ (10 ข้อ)
- เติมบทสนทนาแบบสั้น (10 ข้อ)
- เติมบทสนทนาแบบยาว (10 ข้อ)
- ทักษะการอ่าน (Reading Skill) 50 คะแนน
- เติมข้อความในเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์ (15 ข้อ)
- อ่านเพื่อจับใจความ (15 ข้อ)
การคิดอย่างมีเหตุผล
ข้อสอบส่วนนี้จะเป็นข้อสอบที่วัดทักษะการคิดวิเคราะห์ และการคิดอย่างมีเหตุผล เป็นข้อสอบปรนัยทั้งหมด จำนวน 80 ข้อ ประกอบด้วย 4 หัวข้อหลัก ดังนี้
- ความสามารถทางภาษา (20 ข้อ)
- ความสามารถทางตัวเลข (20 ข้อ)
- ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ (20 ข้อ)
- ความสามารถทางเหตุผล (20 ข้อ)
สมรรถนะการทำงาน
การติว TGAT สำหรับส่วนสมรรถนะการทำงาน ประกอบไปด้วย 4 ส่วน รวมทั้งหมดจำนวน 60 ข้อ ได้แก่
- การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม (15 ข้อ)
- การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน (15 ข้อ)
- การบริหารจัดการอารมณ์ (15 ข้อ)
- การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมของสังคม (15 ข้อ)
สรุป ติว TGAT เตรียมความพร้อมก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย
การติว TGAT เป็นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ แต่ก็เป็นประโยชน์สำหรับผู้สมัครทุกสาขา เนื่องจากการติว TGAT เน้นพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการสื่อสาร ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้เรียนควรพิจารณาเป้าหมายการศึกษาของตนและวางแผนการเตรียมตัวให้ครอบคลุมทั้ง TGAT, TPAT และ A-Level ตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสอบเข้าสู่คณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ