เครื่องซักผ้าในปัจจุบันได้รับการออกแบบให้สามารถอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ซักผ้าได้สะอาด ถนอมผ้า ประหยัดพื้นที่ และราคาประหยัด เครื่องซักผ้าฝาบนจึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด อีกทั้งยังมีหลายขนาดเครื่องซักผ้าฝาบน โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาบน 15 กิโล ที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน และจำเป็นต้องซักผ้าบ่อย ๆ
เครื่องซักผ้าฝาบนน่าใช้งานอย่างไร
เครื่องซักผ้าฝาบน เป็นเครื่องซักผ้าประเภทหนึ่งที่มีฝาเปิดอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง ใช้สำหรับซักผ้าโดยอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ โดยผ้าจะถูกใส่เข้าไปจากด้านบน โดยสามารถแบ่งประเภทของเครื่องซักฝาบนออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- เครื่องซักผ้าฝาบน 2 ถัง หรือถังคู่ (กึ่งอัตโนมัติ) ประกอบไปด้วย 2 ถังแยกกัน คือ ถังซักและถังปั่นหมาด ผู้ใช้ต้องใส่น้ำและผงซักผ้าลงในถังซัก และย้ายผ้าไปยังถังปั่นหมาดเองหลังจากซักเสร็จ เครื่องซักผ้าประเภทนี้มีราคาถูก ใช้งานง่าย แต่ไม่สะดวกเท่าแบบถังเดียว
- เครื่องซักผ้าแบบถังเดียว (อัตโนมัติ) มีถังซักและปั่นหมาดรวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน ผู้ใช้เพียงใส่น้ำ ผงซักผ้า และเลือกโปรแกรมการซัก เครื่องซักผ้าฝาบนจะทำงานอัตโนมัติจนเสร็จ เครื่องซักผ้าประเภทนี้มีราคาแพงกว่าแบบถังคู่ แต่ใช้งานสะดวกกว่า มีโปรแกรมการซักหลากหลาย และประหยัดน้ำมากกว่า
เครื่องซักผ้าฝาบนทำงานโดยใช้น้ำและแรงหมุนของถังซัก เพื่อทำความสะอาดผ้า โดยผ้าจะถูกตีด้วยน้ำวน และถูกับด้านในของถังซัก ซึ่งจะมีน้ำยาซักผ้าช่วยขจัดคราบสกปรกออกจากผ้า ทำให้เครื่องซักผ้าฝาบนมีข้อดีที่น่าใช้งานมากมาย ดังนี้
- มีฝาเปิดอยู่ด้านบน ช่วยให้ใส่และหยิบผ้าออกได้ง่าย โดยไม่ต้องก้มตัว
- เหมาะสำหรับการซักผ้าด่วน เพราะใช้เวลาในการซักและปั่นหมาดสั้นกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- สามารถแช่ผ้าไว้ในน้ำในถังก่อนซักได้
- ถังซักมีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับซักผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือผ้าห่มหนา
- สามารถใส่ผ้าเพิ่มได้ระหว่างการซัก
- รองรับโปรแกรมการซักหลากหลาย เหมาะกับผ้าทุกประเภท
- มีเทคโนโลยีการซักแบบน้ำวน ช่วยให้ผ้ากระจายตัวทั่วถึง ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
- เครื่องซักผ้าฝาบน ราคาถูกกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- เครื่องซักผ้าฝาบนบางรุ่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น
- ระบบ Soft Wash ช่วยถนอมผ้าเนื้อละเอียด
- ระบบ Sterilization ฆ่าเชื้อโรค
- ระบบ Auto Dose เติมน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มอัตโนมัติ
- ฟังก์ชั่น Delay Start ตั้งเวลาซักล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อจำกัดตรงที่เครื่องซักผ้าฝาบนปั่นแห้งเสียงดัง ใช้น้ำมากกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า เสียงดังกว่า สั่นสะเทือนมากกว่า และผ้าอาจยับง่ายกว่า
ขนาดของเครื่องซักผ้าฝาบนที่เหมาะสม
เครื่องซักผ้าฝาบนมีหลายขนาด โดยวัดจากความจุของถังซัก หน่วยเป็นกิโลกรัม (กก.) ซึ่งขนาดเครื่องซักผ้าฝาบนที่พบบ่อย ได้แก่
- เครื่องซักผ้าฝาบน 5 – 7 กิโล เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 1 – 2 คน ซักผ้าได้ประมาณ 25 – 35 ชิ้นต่อครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ซักผ้าไม่บ่อย ต้องการประหยัดพื้นที่ หรือมีงบจำกัด
- เครื่องซักผ้าฝาบน 7 – 9 กิโล เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง 3 – 4 คน ซักผ้าได้ประมาณ 36 – 45 ชิ้นต่อครั้ง เหมาะสำหรับการซักผ้าทั่วไป
- เครื่องซักผ้าฝาบน 10 – 12 kg เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ 5 คนขึ้นไป ซักผ้าได้ประมาณ 46 – 60 ชิ้นต่อครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ซักผ้าบ่อย มีผ้าเยอะ หรือต้องการซักผ้าชิ้นใหญ่
- เครื่องซักผ้าฝาบน 13 กิโล ขึ้นไป เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่พิเศษ หรือร้านซักรีด ซักผ้าได้ประมาณ 61 ชิ้นขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่ซักผ้าจำนวนมาก
วิธีการดูแลเครื่องซักผ้าฝาบนให้ใช้งานได้ดี
การดูแลรักษาเครื่องซักผ้าฝาบนเป็นประจำ จะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน และป้องกันปัญหาต่าง ๆ โดยมีวิธีดูแลเครื่องซักผ้าฝาบน มีดังนี้
- ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าฝาบนเป็นประจำ
- ล้างถังซักอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยใช้โปรแกรมล้างถังซักของเครื่องซักผ้า หรือผสมน้ำส้มสายชูขาว 2 ถ้วยตวงกับน้ำเปล่า 1 ถัง เทลงในถังซัก แช่ไว้ 30 นาที แล้วกดปั่นซัก ล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 รอบ
- ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม ถอดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า และแปรงสีฟัน
- ทำความสะอาดซีลยางขอบฝาเครื่อง เช็ดทำความสะอาดซีลยางขอบฝาเครื่องด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา
- ทำความสะอาดภายนอกเครื่อง เช็ดทำความสะอาดภายนอกเครื่องด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เป็นประจำ
- ใช้เครื่องซักผ้าอย่างถูกวิธี
- ใส่ผ้าให้พอเหมาะ ไม่ควรใส่ผ้าแน่นจนเกินไป อาจทำให้เครื่องซักผ้าฝาบนทำงานหนัก ผ้าไม่สะอาด และเสียงดัง
- เลือกโปรแกรมการซักที่เหมาะสมกับประเภทของผ้า
- ตรวจสอบกระเป๋าเสื้อผ้าก่อนซัก เพื่อป้องกันเศษเงิน เหรียญ หรือของมีค่า หลุดลงไปในถังซัก
- ทำความสะอาดแผ่นกรองเศษผ้า ถอดแผ่นกรองเศษผ้าออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า เป็นประจำ
- เปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ หลังใช้งาน เพื่อระบายอากาศ ป้องกันการเกิดกลิ่นเหม็น
- ตรวจเช็คสภาพเครื่องซักผ้าฝาบนเป็นประจำ เช่น สภาพชำรุดสายไฟและปลั๊กไฟ, เสียงผิดปกติของเครื่องซักผ้า, การสั่นสะเทือนของเครื่องซักผ้า, น้ำรั่วจากเครื่องซักผ้าหรือไม่
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเครื่องซักผ้า
- หากพบปัญหาการใช้งาน ควรหยุดใช้งานเครื่องซักผ้า และติดต่อช่างผู้ชำนาญการ
เครื่องซักผ้าฝาบนราคาประมาณเท่าใด
ราคาเครื่องซักผ้าฝาบน เริ่มต้นโดยประมาณ 5,000 บาท ไปจนถึง 30,000 บาทขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- ขนาด
- เครื่องซักผ้าฝาบน 5 – 7 กิโล ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
- เครื่องซักผ้าฝาบน 7 – 9 กิโล ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 – 15,000 บาท
- เครื่องซักผ้าฝาบน 10 – 12 kg ราคาเริ่มต้นประมาณ 15,000 – 20,000 บาท
- เครื่องซักผ้าฝาบน 13 กิโล ขึ้นไป ราคาเริ่มต้นประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป
- ฟังก์ชัน
- แบบธรรมดา ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
- แบบ Inverter ประหยัดไฟ ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 – 15,000 บาท
- แบบมีระบบซักไอน้ำ ฆ่าเชื้อโรค ราคาเริ่มต้นประมาณ 15,000 – 20,000 บาท
- แบบมีระบบ Smart ควบคุมการทำงานด้วยสมาร์ทโฟน ราคาเริ่มต้นประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป
- ยี่ห้อ
- ยี่ห้อทั่วไป ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
- ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 – 30,000 บาท
สรุปเกี่ยวกับเครื่องซักผ้าฝาบนที่ควรรู้
เครื่องซักผ้าฝาบนเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่ใช้งานง่าย สามารถซักผ้าได้อย่างรวดเร็ว มีผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือผ้าห่มหนา ซักผ้าได้สะอาด ถนอมผ้า ประหยัดพื้นที่ และราคาประหยัด เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน โดยเลือกซื้อขนาดเครื่องซักผ้าฝาบนจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว ปริมาณผ้าที่ซักต่อครั้ง ขนาดของพื้นที่ และฟังก์ชันที่ต้องการ ทั้งนี้ ควรดูแลรักษาเครื่องซักผ้าฝาบนเป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้งาน และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว