เครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านต้องมี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเล็กหรือครอบครัวขนาดใหญ่ก็จำเป็นต้องมีไว้ช่วยให้การซักผ้าสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้นซึ่งเครื่องซักผ้ามีหลายประเภททั้งเครื่องซักผ้า 2 ถัง เครื่องซักผ้าฝาหน้า ฝาบน และยังมีเครื่องซักผ้าพร้อมอบแห้งซึ่งแน่นอนมีวิธีใช้ที่แตกต่างกันตามแต่ละประเภทเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและสามารถยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้อย่างมาก
ควรจะต้องทำอะไรก่อนซักผ้า เพื่อให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การนำผ้าเข้าเครื่องซักผ้าควรแยกผ้าก่อนเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาเนื้อผ้าและยืดอายุการใช้งาน การแยกผ้าควรแยกตามสี เช่น ผ้าสีเข้ม ผ้าขาว และผ้าสีสด เพื่อป้องกันสีตก อีกทั้งควรแยกตามชนิดของเนื้อผ้า เช่น ผ้าเนื้อหนา ผ้าบาง หรือผ้าละเอียด เพื่อป้องกันการเสียดสีที่อาจทำให้เนื้อผ้าฉีกขาด รวมถึงผ้าเปื้อนต่าง ๆ ต้องแยกซักเพื่อรักษาคุณภาพของเสื้อผ้าให้คงทนยาวนาน
การเอาผ้าเข้าเครื่องซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดของเครื่อง
ก่อนเอาผ้าเข้าเครื่องซักผ้า ควรตรวจสอบกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งของหรือเหรียญ เพราะอาจทำให้เครื่องซักผ้าเสียหายได้และในการใส่ผ้าควรใส่ประมาณ 2 ใน 3 ของความจุขนาดเครื่องซักผ้าทั้งเครื่องซักผ้า 10 กิโลและเครื่องซักผ้าฝาหน้า 15 kg เพื่อให้ผ้างมีพื้นที่หมุนเวียนระหว่างการซัก หากใส่ผ้าเต็มเครื่องจนแน่นเกินไปจะทำให้ไม่สะอาดและเครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้ง ทั้งทำงานหนักเกินไป
การใส่น้ำยาซักผ้าให้เหมาะสม จะช่วยถนอมผ้าและเครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อการทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากใส่มากเกินไปอาจเกิดปัญหามีคราบตกค้างบนผ้า ทำให้รู้สึกเหนียวและระคายเคืองผิว อีกทั้งยังอาจทำให้เครื่องซักผ้ามีคราบตกค้างส่งผลต่อประสิทธิภาพการซักในครั้งต่อไปและทำให้อายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าเล็กหรือเครื่องซักผ้าอบผ้าประเภทใดก็ตามยิ่งทำงานหนักมากขึ้น
เลือกโปรแกรมซักที่มีในเครื่องซักผ้าให้เหมาะสม และให้เหมาะกับชนิดของผ้า
การเลือกโปรแกรมซักผ้าที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ชุดและผ้าชนิดต่าง ๆ ยังคงความสะอาดและคงคุณภาพได้นานอีกทั้งยังดีต่อเครื่องซักผ้ากับการเลือกใช้โปรแกรมการทำงานที่มีให้แต่ละประเภทอย่างถูกต้องทั้งเครื่องซักผ้าขนาดเล็ก เครื่องซักผ้าฝาบน เครื่องซักผ้าพร้อมอบแห้งหรือแม้แต่เครื่องซักผ้าอัตโนมัติการใช้โปรแกรมซักผ้าอย่างถูกยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้อีกด้วย
โปรแกรมซักผ้าฝ้าย (Cotton)
- เหมาะสำหรับ: เสื้อผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าที่ทนความร้อน
- ความร้อน: ใช้ความร้อนได้ถึง 60 องศาเซลเซียส
- รอบปั่น: รอบปั่นสูงเพื่อขจัดคราบสกปรกได้ดี
โปรแกรมซักผ้าขนสัตว์ (Wool)
- เหมาะสำหรับ: ผ้าขนสัตว์, ผ้าที่ต้องการการดูแลพิเศษ
- ความร้อน: ใช้น้ำเย็นหรืออุ่นเล็กน้อย (30 องศาเซลเซียส)
- รอบปั่น: รอบปั่นต่ำเพื่อลดการยืดหรือหดตัว
โปรแกรมซักผ้าสังเคราะห์ (Synthetics)
- เหมาะสำหรับ: เสื้อผ้าไนลอน, โพลีเอสเตอร์
- ความร้อน: อุณหภูมิต่ำถึงปานกลาง (30-40 องศาเซลเซียส)
- รอบปั่น: รอบปั่นปานกลางเพื่อรักษาคุณภาพของผ้า
โปรแกรมซักผ้าแบบประหยัด (Eco)
- เหมาะสำหรับ: เสื้อผ้าและผ้าที่สกปรกเล็กน้อย
- ความร้อน: ใช้อุณหภูมิต่ำ ประหยัดพลังงาน
- รอบปั่น: รอบปั่นปกติ เน้นการประหยัดน้ำและไฟ
โปรแกรมซักด่วน (Quick Wash)
- เหมาะสำหรับ: ผ้าที่ไม่สกปรกมาก
- ความร้อน: ใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเล็กน้อย
- รอบปั่น: รอบปั่นเร็วและแรง ใช้เวลาสั้น (ประมาณ 15-30 นาที)
ตรวจสอบและปิดฝาเครื่องซักผ้าให้สนิทก่อนเริ่มทำงาน
หลังจากนำผ้าใส่เครื่องซักผ้าแล้วก่อนเริ่มเปิดโปรแกรมทำงาน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าฝาปิดสนิทดีแล้วโดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาหน้าหากฝาไม่ล็อคเครื่องจะไม่ทำงาน ซึ่งก็เป็นสาเหตุให้ระบบการทำงานของเครื่องซักผ้าอาจทำงานผิดปกติและช่วยป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องได้อีกด้วย
สรุป แนะนำวิธีใช้งานเครื่องซักผ้าอย่างถูกต้องช่วยให้การใช้งานได้ยาวนานและได้ผ้าที่สะอาดขึ้น
เครื่องซักผ้าเป็นผู้ช่วยสำคัญในการซักผ้าให้เป็นเรื่องง่ายและประหยัดเวลา เริ่มต้นโดยการแยกผ้าตามสีและประเภทเพื่อป้องกันสีตกและเนื้อผ้าที่ยังคุณภาพดีอยู่ และเริ่มต้นการซักผ้าโดยใช้โปรแกรมซักที่มีมากับเครื่องอย่างถูกต้อง รวมถึงการเติมผงซักฟอกหรือผลิตภัณฑ์ซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม โดยทำในทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องจะได้ทั้งผ้าที่สะอาดและเครื่องซักผ้าที่ใช้งานได้ยาวนาน