AI คืออะไร? ทำความรู้จัก MarTech ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการทำธุรกิจ

ai คือ

สำหรับในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว ในแต่ละปีก็จะมีการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถช่วยลดการใช้แรงงานคนลงได้ โดยเทคโนโลยีตัวหนึ่งที่สร้างความสนใจให้กับคนทั่วโลกนั่นคือการมาของ “AI”  ซึ่ง AI คือปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า AI กันมาบ้างแล้ว ว่ามันสามารถตอบคำถามเราได้ สร้างรูปให้เราได้ หรือแม้แต่การทำงานบางสิ่งบางอย่างแทนเราได้อีกด้วย โดย AI ย่อมาจาก (Artificial Intelligence) หรือที่เราอาจคุ้นชื่อกันว่า ปัญญาประดิษฐ์ นั่นเอง

ภายในบทความนี้เราจะทำความรู้จักเกี่ยวกับ AI ให้มากขึ้น โดยเราจะมาทำความเข้าใจกันว่า ai คืออะไร? พร้อมยกตัวอย่างเครื่องมือ AI ว่ามีเครื่องมืออะไรที่น่าสนใจบ้าง รวมไปถึงประโยชน์จากการใช้งาน AI ว่าทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย


AI คืออะไร? ใช้งานในด้านใดได้บ้าง

Artificial intelligence หรือที่รู้จักกันในชื่อ AI (ปัญญาประดิษฐ์) คือ เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถแสดงพฤติกรรมที่ต้องอาศัยความสามารถในการคิดและรับรู้ของมนุษย์ออกมาได้อย่างเช่น การเรียนรู้, การวางแผน, การให้เหตุผล, การปรับตัว และการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า AI คือระบบคอมพิวเตอร์ดังนั้นการสอนให้ AI สามารถเรียนรู้และสามารถพัฒนาตัวเองได้จะต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้จากข้อมูล (Machine Learning) เพื่อสร้างโมเดลของระบบคอมพิวเตอร์ ให้มีความสามารถในการประมวผล ทำนายผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ โดยอาศัยกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสถิติในการหาความสัมพันธ์จากข้อมูลที่มี

โดยการทำ AI Machine Learning คือการนำข้อมูลและโมเดลต่าง ๆ มาเพิ่มในฐานข้อมูลของระบบโครงข่ายเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และสามารถประยุกต์พัฒนาการแก้ไขปัญหาใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับข้อมูลที่มีการเทรนไปได้

โดย AI จะเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของเราดังนี้

  • ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน: ai คือตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในหลาย ๆ ด้านเช่น การผลิต การตลาด การดูแลสุขภาพ และการศึกษา
  • ช่วยเพิ่มความปลอดภัย: AI สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยในหลาย ๆ ด้าน เช่น การป้องกันอาชญากรรม การจราจร และความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม
  • ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต: AI คือตัวช่วยที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของเราให้เป็นระเบียบและดีมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การบริหารเวลา การจัดลำดับการทำงานในแต่ละวัน เป็นต้น

ในอีกมุมหนึ่ง AI ก็จะมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจในหลาย ๆ ด้านดังนี้

  • เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน: AI คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางธุรกิจ
  • ช่วยลดต้นทุน: การใช้งาน AI เข้ามาช่วยทำงานในหลาย ๆ กระบวนทำให้สามารถลดต้นทุนในหลายส่วนได้อย่างเช่น ต้นทุนในการจ้างแรงงาน ค่าวัตถุดิบสินค้า หรือค่าเชื้อเพลิงในการผลิต
  • เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ: AI คือเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการวิเคราะห์และทำนายแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาให้ AI วิเคราะห์ออกมาเป็นข้อมูลที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเลือกเส้นทางธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตมากที่สุดได้

ประโยชน์ของ AI คืออะไร? ทำไมถึงรับความนิยมอย่างแพร่หลาย 

หลังจากที่ได้รู้จักกันไปแล้วว่า AI (Artificial Intelligence) คืออะไรและมีบทบาทสำคัญยังไงบ้าง ถัดมาเรามาดูประโยชน์จากการใช้งาน AI กันบ้างว่าสามารถนำมาใช้งานยังไงได้บ้าง

  • ช่วยประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว: เนื่องจาก AI คือโมเดลของโครงข่ายคอมพิวเตอร์จึงทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และสามารถสร้างผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาอันสั้น
  • ช่วยในการทำงานที่มีความซ้ำซ้อนโดยอัตโนมัติ: ระบบ AI สามารถเรียนรู้การทำงานที่เป็นระบบและต้องอาศัยการทำซ้ำได้เป็นอย่างดีผ่านกระบวนการ Machine Learning ในการฝึกฝน AI  ซึ่งการนำ AI เข้ามาช่วยในการทำงานซ้ำซ้อนนอกจากจะช่วยลดการใช้แรงงานจากมนุษย์แล้ว ยังช่วยลดโอกาสผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย
  • เพื่มระดับความแม่นยำในการตัดสินใจ: เทคโนโลยี AI คือสิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเรื่องสำคัญได้ดียิ่งขึ้น จากการประมวลผลข้อมูลที่มีอยู่ และสร้างออกมาเป็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
  • สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า: จากการใช้ AI ในการบริการลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการตอบแชทตามช่องทางออนไลน์แบบ 24 ชั่วโมง หรือการใช้ AI ในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งบริการจาก AI เหล่านี้สามารถสร้างความแปลกใหม่และส่งมอบความประทับใจให้แก่ลูกค้า ทำให้ธุรกิจเติบโต และสามารถรักษาฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
  • ช่วยปรับปรุงกระบวนการและขั้นตอนการทำงาน: การใช้งาน AI ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานหรือขั้นตอนต่าง ๆ จะช่วยให้ผลลัพธ์การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพราะ AI คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยประมวลผลการทำงานทั้งระบบและสามารถพัฒนากระบวนการทำงานให้ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด ช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไร และเพิ่มผลผลิต

เครื่องมือ AI ที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มใช้งาน

  • Chat GPT

ปัญญา ประดิษฐ์ คือ

ขอบคุณภาพจาก https://www.hausmanmarketingletter.com/wp-content/uploads/2023/05/64063dbcad97bd421b437096_chatgpt.jpg

 

ChatGPT เป็นแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ตัวต้นแบบที่พัฒนาโดย OpenAI ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสนทนา แชทถามตอบ โดย ChatGPT เป็นเครื่องมือ AI ที่มีประโยชน์สำหรับหลายวัตถุประสงค์ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นสนใจใช้ AI ในการทำงานในรูปแบบที่หลากหลาย

คุณสมบัติเด่น ๆ ของ ChatGPT (AI) คือ

  • สามารถแชทโต้ตอบได้สมจริงและน่าดึงดูด
  • สามารถสร้างเนื้อหาที่สร้างสรรค์ประเภทต่าง ๆ ได้เช่น บทความ บทกวี หรือการแปลภาษา เป็นต้น
  • ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้งาน AI

 

  • JenniAI

ai deep learning คือ

ขอบคุณภาพจาก https://media.licdn.com/dms/image/D4E12AQFR_oCNoejghw/article-cover_image-shrink_720_1280/0/1701175030639?e=2147483647&v=beta&t=LQPI-Gcgh5g2muc-6bMIE7QPuMczLyU2UqSv3rU-yUU

 

JenniAI คือเครื่องมือ AI ที่ช่วยในการเขียนงานวิจัยทางวิชาการ เครื่องมือนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท JenniAI จากประเทศไต้หวัน JenniAI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักวิจัยทางวิชาการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนงานวิจัย

คุณสมบัติเด่น ๆ ของ JenniAI คือ

  • ช่วยในการค้นคว้าข้อมูล สามารถช่วยหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย โดยหาจากบทความหรือเอกสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องได้
  • ช่วยในการเขียนเนื้อหา สามารถช่วยในการเขียนบทคัดย่อ บทนำ เนื้อหา และบทสรุปได้
  • สามารถช่วยอ้างอิงเนื้อหาของงานวิจัย โดยอ้างอิงได้ทั้งในรูปแบบ APA, MLA หรือในรูปแบบอื่น ๆ

 

  • Biometrics

artificial intelligence คือ

Biometrics คือเทคโนโลยีที่ใช้ลักษณะทางกายภาพหรือพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อระบุตัวตนหรือยืนยันตัวตน ลักษณะทางกายภาพที่ใช้ ได้แก่ ลายนิ้วมือ เสียง ใบหน้า ม่านตา เส้นเลือดในนิ้วมือ เป็นต้น ซึ่งการใช้งาน AI Deep Learning คือส่วนประกอบที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ Biometrics ให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ยากต่อการถูกลอกเลียน และปลอมแปลง 

  • Durable

ai engineer คือ

ขอบคุณภาพจาก https://www.mlyearning.org/wp-content/uploads/2023/05/Durable-AI-Tool-Review-1.jpg

 

Durable (AI) คือ AI ที่สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการเรียนรู้ของ AI ที่ผ่านการเทรนโมเดลมาเพื่อการทำเว็บไซต์โดยเฉพาะ จึงทำให้สามารถสร้างเว็บไซต์ที่ตรงกับความต้องการธุรกิจและลูกค้าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ Durable ยังสามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือทางการตลาดอื่น ๆ ได้อีกด้วย

  • Klap

ai accounting คือ

ขอบคุณภาพจาก https://miro.medium.com/v2/resize:fit:465/1*AVQk5Op9G01UOgkgxeot6Q.png 

 

Klap เป็นเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้าง Short Video ได้อย่างรวดเร็ว เพียงนำ URL ของ Youtube มาใส่ Klap ก็จะทำการผลิต Short Video ออกมาพร้อมโพสลง Social Media ต่าง ๆ อย่าง Reel, TikTok หรือ Shorts ได้ในทันที ถือได้ว่าเป็นการนำ AI มาช่วยให้การทำงานมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น


สรุปแล้ว AI คืออะไร?

สำหรับในปัจจุบันนั้นเรียกได้ว่าพึ่งเริ่มเข้าสู่ยุค AI ได้ไม่นานก็ได้เห็นการนำ AI มาพัฒนาประยุกต์ใช้ในสาขาอาชีพหรือการทำงานในเฉพาะด้านกันบ้างแล้ว หากไม่ได้มีการพัฒนาที่เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ก็อาจจะเรียกได้ว่า AI คือกุญแจสำคัญสู่การเริ่มต้นยุคสมัยใหม่อย่างแท้จริง ที่จะมีการนำ AI หรือหุ่นยนต์เข้ามาช่วยเหลือและมีบทบาทในการใช้ชีวิตของมนุษย์ในด้านต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ


อ้างอิง

7 เครื่องมือ AI ในปี 2023 ที่ต้องจับตาดูไว้

https://www.mandalasystem.com/blog/th/297/What-is-artificial-intelligence-AI

เทคโนโลยี AI คืออะไร? รู้จักกับ 3 ประเภทของ AI ที่เพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ

รับฟรี! รวมโพสขายดี