Web Application ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับธุรกิจของคุณ!

Web Application

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เว็บแอปพลิเคชันได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลและบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ไม่ต้องติดตั้ง เปิดผ่านเบราว์เซอร์ได้ทันที หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่มั่นใจว่า Web Application คืออะไร มาหาคำตอบกันได้ที่บทความนี้



Web Application คืออะไร ?

web application คือ

เว็บแอปพลิเคชัน (Web application) คือโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ

เว็บแอปพลิเคชันได้รับการปรับปรุงให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแอปพลิเคชันทั่วไป ด้วย UI ที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตร ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ปัจจุบันเว็บแอปพลิเคชันมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ระดับสากล ระดับมหาวิทยาลัย ไปจนถึงระดับบริษัท ซึ่งหลายแห่งได้พัฒนาเว็บแอปพลิเคชันของตนเองเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย


Web Application กับ Website ต่างกันอย่างไร?

เว็บไซต์ (Website) และ เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) ถึงแม้จะสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในด้านวัตถุประสงค์และฟังก์ชันการทำงาน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:

1. วัตถุประสงค์หลัก

  • เว็บไซต์ (Website) : มีวัตถุประสงค์หลักในการนำเสนอข้อมูล เนื้อหา หรือข่าวสารต่างๆ แก่ผู้ใช้งาน โดยเน้นที่การให้ข้อมูลและความรู้ เช่น เว็บไซต์ข่าวสาร เว็บไซต์องค์กร หรือบล็อกส่วนตัว
  • เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) : มีวัตถุประสงค์หลักในการให้บริการหรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างแก่ผู้ใช้งาน โดยเน้นที่การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ เช่น เว็บไซต์ธนาคารออนไลน์ เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย

2. การโต้ตอบกับผู้ใช้

  • เว็บไซต์ (Website) : ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารทางเดียว ผู้ใช้สามารถอ่านและดูข้อมูลได้ แต่มีการโต้ตอบน้อย เช่น การคลิกลิงก์เพื่อไปยังหน้าต่างๆ หรือการกรอกแบบฟอร์ม
  • เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) : มีการโต้ตอบกับผู้ใช้มากกว่า ผู้ใช้สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ที่เว็บไซต์มีให้ เช่น การทำธุรกรรมออนไลน์ การแก้ไขข้อมูลส่วนตัว หรือการเล่นเกม

3. ความยากในการใช้งาน

  • เว็บไซต์ (Website) : โดยทั่วไปแล้วมีความซับซ้อนน้อยกว่าเว็บแอปพลิเคชัน เนื่องจากเน้นการแสดงข้อมูลเป็นหลัก
  • เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) : มีความซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากต้องมีการประมวลผลข้อมูลและจัดการการทำงานต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้

Web Application ทำงานอย่างไร?

1. ส่วนของผู้ใช้ (Client)

  • เว็บเบราว์เซอร์: ผู้ใช้เข้าถึงเว็บแอปพลิเคชันผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ (เช่น Chrome, Firefox, Safari) ที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์ของตน (เช่น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต)
  • การร้องขอ (Request): เมื่อผู้ใช้ต้องการใช้งานฟังก์ชันใด ๆ ของเว็บแอปพลิเคชัน ผู้ใช้จะส่งคำร้องขอ (Request) ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ไปยังเซิร์ฟเวอร์

2. ส่วนของเซิร์ฟเวอร์ (Server)

  • เว็บเซิร์ฟเวอร์: เว็บเซิร์ฟเวอร์ (เช่น Apache, Nginx) ทำหน้าที่รับคำร้องขอจากผู้ใช้ และส่งต่อไปยังส่วนที่เกี่ยวข้อง
  • แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์: แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ (เช่น Tomcat, JBoss) ทำหน้าที่ประมวลผลคำร้องขอ โดยอาจมีการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล หรือทำการคำนวณต่าง ๆ
  • ฐานข้อมูล: ฐานข้อมูล (เช่น MySQL, PostgreSQL) ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเว็บแอปพลิเคชัน

3. การทำงานร่วมกัน

  • รับคำร้องขอ: เมื่อเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้รับคำร้องขอจากผู้ใช้ ก็จะส่งคำร้องขอนั้นไปยังแอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์
  • ประมวลผล: แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์จะทำการประมวลผลคำร้องขอ โดยอาจมีการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล หรือทำการคำนวณต่าง ๆ
  • ส่งผลลัพธ์: เมื่อประมวลผลเสร็จสิ้น แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์จะส่งผลลัพธ์กลับไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์
  • แสดงผล: เว็บเซิร์ฟเวอร์จะส่งผลลัพธ์ที่ได้รับไปยังเว็บเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ เพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้เห็น

Web Application มีข้อดีอย่างไร?

web application ข้อดี

ในแง่ของผู้ใช้งานทั่วไป

  • ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานเว็บแอปพลิเคชันได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ตและเว็บเบราว์เซอร์
  • ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมใด ๆ ลงบนเครื่อง
  • การอัปเดตเว็บแอปพลิเคชันสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทำการอัปเดตด้วยตัวเอง
  • มีเว็บแอปพลิเคชันให้เลือกใช้งานมากมาย ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้
  • ไม่จำเป็นต้องมีบุคลากรด้านเทคนิคเป็นของตัวเอง เพราะผู้ให้บริการดูแลเซิฟเวอร์และการบำรุงรักษาเองทั้งหมด

ในแง่ของการทำธุรกิจ

  • Web Application สามารถช่วยลดงานที่ต้องทำด้วยมือ และเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน เช่น ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หรือระบบการจัดการคลังสินค้า
  • บางบริษัทมีการจ้าง IT Support Outsource พัฒนา Web Application ให้ธุรกิจสามารถนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้ เช่น การให้บริการที่รวดเร็วและสะดวกสบายกว่าคู่แข่ง

Web Application เครื่องมือสำคัญในยุคดิจิทัล

Web Application เป็นเครื่องมือสำคัญในยุคดิจิทัลที่ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลและบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ  ด้วยความสามารถในการเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลา  Web Application จึงมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา  และยังสามารถใช้ร่วมกับการพัฒนาธุรกิจได้อีกด้วย

การมี Web Application ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจโดยเฉพาะ จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว อย่ารอช้า จ้างบริษัท Web Application หรือทำทีมพนักงาน Web Application และพัฒนา Web App เป็นของตัวเองกันได้เลย!


รับฟรี! รวมโพสขายดี