ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ ไว้ เพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทาง

 

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

การขับรถบนท้องถนนหากไม่มีประกันรถยนต์อาจทำให้คุณรู้สึกกังวลใจในยามขับขี่ แต่บางครั้งคุณมีงบในการทำประกันรถยนต์ที่ไม่มากพอสำหรับทำประกันชั้นหนึ่ง ดังนั้นประกันรถยนต์ชั้นอื่นอาจตอบโจทย์ความคุ้มครอง และตอบโจทย์เรื่องงบประมาณของคุณได้ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทประกันรถยนต์ที่น่าสนใจ

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีของคนที่อยากเซฟค่าเบี้ยประกันรถยนต์ หรือคนที่รถยนต์มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี เพราะว่าความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2 ครอบคลุมความเสียหายให้เกือบเทียบเท่าประกันรถยนต์แบบชั้นหนึ่งเลย หากคุณมีประสบการณ์ในการขับรถอยู่พอสมควร ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ถือว่าคุ้มสำหรับคุณ แล้วประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองออะไรบ้าง เรามาหาคำตอบกัน


ใครทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ แล้วคุ้ม 

รถยนต์ใช้มานานแล้วยังจะคุ้มอยู่ไหมถ้าหากต้องซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 หากจะเลือกเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ ล่ะ จะเหมาะกับคุณหรือเปล่า หากคุณมีข้อสงสัย และกำลังลังเลใจในการเลือกซื้อประกันรถยนต์อยู่ เราอยากให้คุณพิจารณาตามลิสต์รายการดังต่อไปนี้ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับคุณหรือไม่

  • รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์ที่คุณไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือใช้ขับไปเพียงระยะทางใกล้ๆ เท่านั้น
  • คุณมีประสบการณ์ หรือความเคยชินในการขับรถอยู่แล้วพอประมาณ

หากคุณเข้าข่ายคุณสมบัติตามลิสต์รายการที่กล่าวไป คุณสามารถเลือกซื้อประกันชั้น 2+ แทนประกันชั้นหนึ่งได้เลย เพื่อช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันในแต่ละปีที่ต้องจ่าย


ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มอบความคุ้มครองด้านไหนให้คุณ 

ในเมื่อประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีความใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่เมื่อเบี้ยประกันที่ต่างกันอยู่พอสมควร ดังนั้นประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมในเรื่องอะไรบ้าง 

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองตัวรถยนต์

หากคุณเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ สิ่งแรกที่คุณจะได้รับความคุ้มครองเลยคือ เรื่องความเสียหายของตัวรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุในการขับขี่แบบมีคู่กรณี โดยความคุ้มครองของประกันชั้น 2+ นี้จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถที่เกิดจากอุบัติเหตุทั้งในส่วนของผู้เอาประกัน และในส่วนของคู่กรณีด้วยไม่ว่าผู้เอาประกันจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกก็ตาม

แต่ถ้าหากตัวรถยนต์มีความเสียหายที่เกิดจากการเฉี่ยวชนแบบไม่มีคู่กรณี ยกตัวอย่างเช่น เฉี่ยวชนเสาไฟฟ้า ชนรั้วกำแพง หรือชนสัตว์ ประกันชั้น 2 + จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันให้ ผู้เอาประกันจะต้องซ่อมเอง แต่จะรับผิดชอบในส่วนของทรัพย์สินที่ผู้เอาประกันชน และได้รับความเสียหายให้

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองเมื่อเสียหายหรือเจออุบัติภัย ภัยธรรมชาติ

สำหรับความเสียหายที่เกิดกับตัวรถยนต์แบบไม่คาดคิดที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็จะให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุ น้ำท่วม ลูกเห็บตก ไฟป่า แผ่นดินไหว หรือโคลนถล่ม เป็นต้น รวมถึงในกรณีที่มีลมพายุกระโชกแรงจนทำให้ต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้าหักหล่นทับรถ ประกันชั้น 2+ ก็จะรับผิดชอบค่าเสียหายตามวงเงินที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

หากผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุจนทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย ทุพพลภาพ หรือถึงขั้นเสียชีวิตของคู่กรณี ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะช่วยรับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยก็ตาม โดยจะคุ้มครองตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งจะสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง

นอกจากนี้ยังคุ้มครองในเรื่องของทรัพย์สินภายนอกที่เกิดจากอุบัติเหตุด้วย ยกตัวอย่างเช่น ร้านค้า ที่อยู่อาศัย เสาไฟฟ้า รั้วกำแพง หรือรถยนต์ ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิด ประกันชั้น 2+ จะรับผิดชอบความเสียหายในเรื่องนี้ให้ด้วย ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย

บางครั้งประกันชั้น 2+ จะมีเอกสารแนบท้ายที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เงินชดเชยกรณีที่บาดเจ็บของผู้เอาประกัน หรือการเสียชีวิตของบุคคลในรถของผู้เอาประกัน รวมไปถึงในกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดก็จะมีวงเงินในการใช้ประกันตัวผู้ขับขี่ได้ด้วย

แต่ถ้าหากผู้ขับขี่ในรถที่เอาประกันภัยเกิดบาดเจ็บแล้วต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลประกันชั้น 2+ ก็จะช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่ารักษา ค่าผ่าตัด และค่าบริการแพทย์ให้ด้วย ซึ่งวงเงินความคุ้มครอง และเงื่อนไขในส่วนนี้จะเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์

ประกันภัยชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง


ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต่างจากประกันชั้นอื่นอย่างไร 

เมื่อคุณพอทราบเกี่ยวกับความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+ แล้ว เรามาดูกันว่า ถ้าหากเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์ชั้นอื่นแล้วมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง เพื่อให้คุณเลือกความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้จริง และประกันรถยนต์ที่คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าของคุณ

ประกันชั้น 2+ เปรียบเทียบกับประกันชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะรับผิดชอบค่าเสียหายจากอุบัติเหตุของผู้ขับขี่ในกรณีที่มีคู่กรณีเพียงเท่านั้น จึงทำให้เหมาะกับรถยนต์ที่ไม่ค่อยมีการใช้งานมากนัก หรือผู้ขับขี่ที่มีความชำนาญในการขับขี่พอสมควร รวมถึงรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีด้วย

แต่ถ้าหากเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม รวมถึงรับผิดชอบความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดจากอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีด้วย ซึ่งความคุ้มครองในส่วนนี้แหละที่แตกต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 2+ ส่วนในเรื่องความคุ้มครองด้านอื่นๆ ก็จะเหมือนกันแทบทุกอย่าง

ประกันชั้น 2+ เปรียบเทียบกับประกันชั้น 2

ประกันรถยนต์ชั้น 2 แบบปกติจะไม่มีความคุ้มครองในเรื่องความเสียหายของตัวรถยนต์ของผู้เอาประกัน แต่จะรับผิดชอบแค่ในส่วนของคู่กรณีเท่านั้น หากผู้เอาประกันประสบอุบัติเหตุไม่ว่าจะมีคู่กรณี หรือไม่มี เป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูกก็จะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากตัวรถด้วยตนเอง 

แต่ถ้าหากคุณเลือกทำประกันชั้น 2+ เมื่อไหร่ที่เป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าเสียหายของตัวรถยนต์ให้ทั้งคุณ และคู่กรณีแน่นอน ส่วนความคุ้มครองด้านอื่นๆ อย่างเช่น การถูกโจรกรรม หรือภัยธรรมชาติ ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 2 แบบปกติ ให้ความคุ้มครองที่ไม่ต่างกัน 

ประกันชั้น 2+ เปรียบเทียบกับประกันชั้น 3+

สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองตัวรถยนต์ของผู้เอาประกัน และคู่กรณีเหมือนกับประกันรถยนต์ชั้น 2+ เลย แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดจากการโจรกรรม หรือภัยธรรมชาติ รวมถึงในกรณีที่รถกระจกแตกด้วย ซึ่งความคุ้มครองประเภทนี้จะทำให้คุณอุ่นใจได้แค่ในเรื่องของการขับขี่ แต่ถ้าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างภัยธรรมชาติ และการโจรกรรมผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบเอง


ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ไหนดี สมัครง่าย โปรโมชั่นดี

ถ้าหากว่าคุณเริ่มสนใจประกันรถยนต์ชั้น 2+ แล้ว จะต้องเลือกทำกับบริษัทไหนดีล่ะ แล้วบริษัทเหล่านั้นจะมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน เราบอกเลยว่าคุณไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องการเลือกซื้อประกันรถยนต์อีกต่อไป เพราะตอนนี้ SILKSPAN ได้นำบริษัทประกันภัยชั้นนำมาให้คุณเลือกไม่ต่ำกว่า 20 บริษัทบนหน้าเว็บไซต์ของเรา ได้แก่ วิริยะประกันภัย กรุงเทพประกันภัย ทิพยประกันภัย เทเวศประกันภัย และโตเกียวมารีน เป็นต้น 

ซึ่งแต่ละบริษัทที่เราคัดเลือกมาให้คุณได้ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ได้ผ่านการคัดกรองจากเราแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ และมีเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม โดยคุณสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครอง และราคาค่าเบี้ยประกันของแต่ละบริษัทได้พร้อมๆ กัน เพื่อให้คุณได้ประกันรถยนต์ที่ตรงตามความต้องการ และงบประมาณที่คุณมีมากที่สุด

นอกจากนี้ข้อดีของการซื้อประกันรถ 2+ ผ่านเว็บไซต์ของ SILKSPAN ก็คือ เรามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดย Inter Partner Assistance รวมไปถึงเรายังมีโปรโมชั่นส่วนลดให้ลูกค้าของเราในกรณีที่มีการแนะนำการซื้อประกันผ่านเว็บไซต์ของเราให้กับครอบครัว หรือเพื่อน สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท และถ้าหากใครสนใจผ่อนชำระก็สามารถเลือกผ่อนชำระกับทางเราได้โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย


เบี้ยประกันชั้น 2+ ถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับอะไร 

เมื่อคิดจะทำประกันรถ 2+ ทั้งที สิ่งที่ผู้เอาประกันภัยควรจะรู้ก็คือ สาเหตุที่เบี้ยประกันจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับอะไรได้บ้าง โดยปัจจัยที่ทำให้เบี้ยประกันรถ 2+ มีราคาไม่เท่ากัน หรือไม่เหมือนเดิมมีดังต่อไปนี้

  • ขนาดตัวถังของรถยนต์ และขนาดของตัวเครื่อง ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์เครื่องเล็ก 1200 cc จะมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่ารถขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ 2000 cc เป็นต้น รวมไปถึงจำนวนที่นั่งของตัวรถก็มีผลต่อค่าเบี้ยประกันด้วยเช่นกัน
  • ยี่ห้อของรถยนต์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการคิดเบี้ยประกันรถ 2+ เช่นกัน อย่างเช่น รถแบรนด์ยุโรปอาจมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่ารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น เพราะอะไหล่ของตัวรถมีราคาแพง หากเกิดความเสียหายต้องใช้วงเงินที่สูงในการซ่อม
  • นอกจากนี้อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเบี้ยประกันชั้น 2+ ถูกและแพงเลยก็คือ การขับขี่ของรถผู้เอาประกันภัย เพราะถ้าหากมีการเคลมบ่อยครั้ง หรือเคลมเกินวงเงินก็จะทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไปสูงขึ้นด้วย แต่ถ้าหากผู้ขับขี่ในรถผู้เอาประกันภัยสามารถขับรถได้เป็นอย่างดี และไม่เคยเคลมเลยปีถัดไปบริษัทประกันภัยก็อาจทำการลดเบี้ยประกันภัยให้ตามความเหมาะสม
  • ระบุผู้ขับขี่ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เบี้ยประกันถูกลงได้ด้วยเหมือนกัน แต่ต้องระวังนะ เพราะถ้าระบุผู้ขับขี่ไปแล้ว ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่ที่ถูกระบุในกรมธรรม์จะต้องเป็นขับขี่เท่านั้นประกันถึงจะจ่ายค่าคุ้มครองความเสียหายให้ 

สรุปประกันรถยนต์ชั้น 2+ ดีอย่างไร ทำที่ไหนคุ้มค่าสุด

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะสำหรับรถที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป หรือรถที่ไม่ค่อยได้ขับไปไหนไกลๆ มาก ซึ่งประกันชั้น 2+ มีความคุ้มครองที่ไกลเคียงกับประกันชั้น 1 มาก แต่ด้วยราคาที่ต่างกันก็ช่วยให้เจ้าของรถที่งบจำกัดสามารถเอื้อมถึงประกันรถที่มีความคุ้มครองที่ดีได้ และถ้าคุณอยากซื้อประกันรถยนต์ก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะ SILKSPAN ได้นำบริษัทประกันรถยนต์หลายบริษัทมาให้คุณได้เปรียบเทียบทั้งแผนความคุ้มครอง และราคาพร้อมๆ กันบนเว็บไซต์ของเรา

เพียงแค่กรอกข้อมูลรถยนต์ที่ต้องการทำประกันชั้น 2+ ในช่องค้นหา SILKSPAN ก็จะคัดเลือกแผนประกันที่เหมาะสมมาให้คุณได้เลือกซื้อในราคาที่คุ้มค่า พร้อมส่วนลดพิเศษต่างๆ และถ้าหากคุณไม่สะดวกจ่ายเงินก่อนก็สามารถเลือกผ่อนชำระกับเราแบบไม่มีดอกเบี้ยได้ด้วย บอกเลยว่าคุ้มมากๆ 

 

 

รับฟรี! รวมโพสขายดี