ปัจจุบันมีการพูดถึงคอนเทนต์ หรือ Content กันมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของนักการตลาด และยังบอกต่อ ๆ กันอีกว่า ถ้าอยากทำการตลาด อยากเพิ่มยอดขาย อยากสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ต้องรีบออกไปทำคอนเทนต์ ซึ่งทุกวันนี้ใคร ๆ ก็สามารถทำการตลาดสร้างคอนเทนต์ได้
หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากจะเรียนรู้การทำคอนเทนต์ อยากรู้ว่าคอนเทนต์คืออะไร? คอนเทนต์สำคัญแค่ไหน? มีประโยชน์อย่างไร? โดยเฉพาะคอนเทนต์ในโลกออนไลน์ ในบทความได้อธิบายเกี่ยวกับคอนเทนต์ (Content) รวมถึงสรุปสิ่งที่ต้องรู้และทำความเข้าใจ ประเภทคอนเทนต์แบบต่าง ๆ ไว้ให้แล้ว
KingCopywriting แนะนำ... 👇👇👇
คอนเทนต์ คืออะไร?
คอนเทนต์ (Content) คือ ข้อมูลเนื้อหาที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ ธุรกิจ รายละเอียดสินค้าบริการ ประสบการณ์ หรือการอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านตัวอักษร รูปภาพ อินโฟกราฟิก เสียง หรือวิดีโอ ปัจจุบันถือเป็นสิ่งที่สำคัญในทำการตลาดการขายออนไลน์ อย่างมากเนื่องจากคนส่วนใหญ่อยู่ในโลกออนไลน์และเสพคอนเทนต์ในนั้นเป็นจำนวนมาก
การสร้างคอนเทนต์ก็เหมือนกับเราหาโอกาส ในการสื่อสารกับผู้อ่านหรือผู้บริโภค ที่นำไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ เช่น รู้จักสินค้าเรามากขึ้น รู้จักองค์กร หรือนำไปสู่การซื้อสินค้าและบริการ โดยผ่านช่องทางการสื่อสารคอนเทนต์ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่างเช่น เราจะทำ Facebook เราก็ต้องมีเนื้อหาที่ต้องการจะโพสต์ขึ้นไป เพื่อทำให้คนเห็น ทักและติดตาม หรือจะทำ Google ก็ต้องมีคอนเทนต์ให้ผู้อ่านหรือผู้บริโภครู้จักเรามากขึ้น ทำ Youtube ก็ต้องมีคอนเทนต์วิดีโอ เพื่อให้เกิดการไลค์วิดีโอ หรือการกดติดตามช่อง Youtube เป็นต้น
คอนเทนต์มีกี่ประเภท?
จริง ๆ แล้วคอนเทนต์มีหลายประเภท ทั้งรูปภาพ วิดีโอ เสียง การเขียนหรือตัวอักษร ซึ่งคอนเทนต์แต่ละประเภทก็จะมีหน้าที่ ที่แตกต่างกัน เช่น
- คอนเทนต์ให้ความรู้ (Educate) : เป็นคอนเทนต์มีไว้ให้ความรู้ บอกเล่าสาระความรู้ให้กับผู้อ่าน โดยเป้าหมาย คือการสร้างการรับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือ
- คอนเทนต์ขายของ (Sales & Marketing) : เป้าหมายหลักคือทำให้เกิดการซื้อขาย สร้างรายได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เป็นที่ต้อวการมากในองค์กร ธุรกิจต่าง ๆ
- คอนเทนต์ให้ความบันเทิง (Entertainment) :สร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดการติดตาม ผูกพัน หรือบอกต่อ ทำให้ผู้อ่านหรือผู้บริโภคจะอยู่กับเรานานขึ้น
- คอนเทนต์ประเภทโน้มน้าวใจ (Convince) : เพื่อทำให้การโน้มน้าว คล้อยตาม ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
- คอนเทนต์ประเภทสร้างแรงบันดาลใจ (Inspire) : โดยมากจะเชื่อมโยงถึงความเชื่อ ประทับใจ ชื่นชม มองเห็นโอกาส นิยมใช้ในการสร้างแบรนด์ สร้างภาพลักษณ์องค์กรในทิศทางที่ดี ให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ส่วนคอนเทนต์ประเภทไหนจะตรงจุด ตรงใจผู้อ่านหรือผู้บริโภค ก็ต้องอาศัยศาสตร์และศิลป์ในการสร้างคอนเทนต์ขึ้นมา ด้วยการพยายามคิดวิเคราะห์ว่าทำอย่างไรคอนเทนต์ถึงจะน่าสนใจ ทำอย่างไรให้คนชอบ รวมถึงทำอย่างไรให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์ออกมาได้เร็ว ทันกระแส ทันเหตุการณ์ ผู้เขียนจึงต้องรู้กลยุทธ์ในการเขียน
สำหรับใครที่สนใจอยากศึกษาคอนเทนขายของสามารถอ่านเพิ่มเติมที่บทความนี้ครับ : เขียนยังไงให้คนอยากซื้อ มาดู 5 วิธี โพสขายของ ที่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนเริ่มโพส!
8 กลยุทธ์เขียนคอนเทนต์ให้โดนใจผู้อ่าน
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นเขียนคอนเทนต์อย่างไร แต่มีความต้องการให้ผู้อ่านรู้จักเรา สนใจในสินค้าเรา สนใจการบริการของเรา ทำคอนเทนต์อย่างไร ให้โพสต์ไปแล้วลูกค้าไม่รำคาญ มี 8 หลักสำคัญดังนี้
1. Think about Them
คิดถึงเขาหรือคิดถึงผู้อ่านให้มาก ก่อนที่เราจะเขียนคอนเทนต์ ต้องคิดถึงผู้อ่านเสมอ ให้คิดว่าคนอ่านจะได้อะไร โดยเรื่องราวนั้นจะต้องเกี่ยวกับผู้อ่านหรือกลุ่มเป้าหมายของเรา
ต้องเข้าใจผู้อ่าน ว่าเขามีความต้องการอะไรบ้าง เราต้องตีโจทย์ให้แตก ขยี้และจี้ไปที่ตัวปัญหา แล้วกลับมาคิดว่าเราจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง
ควรทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อน หนึ่งคอนเทนต์อย่าขยายหลายปัญหา ควรมี key message เดียว แก้ทีละเรื่อง ทำให้เหมือนเราเป็นห้องสมุดที่แก้ปัญหาตอบโจทย์อะไรที่ผู้อ่านไม่รู้ได้อยู่บ่อย ๆ แต่ข้อสำคัญต้องกระชับได้ใจความ ไม่เวิ่นเว้อ แล้วสุดท้ายวันหนึ่ง ถ้าเขาอยากซื้อหรือใช้บริการ เขาจะนึกถึงเราเป็นอันดับแรก
2. Think about You
นอกจากคิดถึงผู้อ่าน เราก็สามารถทำคอนเทนต์ที่คิดถึงตัวเราเองได้เช่นกัน โดยเริ่มจากเราต้องหาคาแเร็กเตอร์ของตัวเราเองให้เจอ เรามีข้อดีอะไรบ้าง มีบริการอะไรเด่น ๆ ต่างจากคนอื่น ให้นำเสนอออกไป
ขอบคุณภาพจาก facebook : The Cloud
โดยอาจจะสร้างเป็นเรื่องราว เรื่องเล่าที่น่าสนใจ บอกกล่าวความเป็นเรา ยกตัวอย่างประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญมากี่ปี สินค้าหรือวัสดุที่เรามี มีการคิดค้น วิจัยอะไรมาบ้างเป็นต้น
3. Useful information
คอนเทนต์ที่จะชนะใจผู้อ่าน ในระยะยาวนั้นต้องมีประโยชน์ เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มีความรู้ คนอ่าน อ่านแล้วสามารถเรียนรู้ได้ เป็น How to ที่สามารถนำไปต่อยอด หรือสร้างแรงบันใจได้จริง
ขอบคุณภาพจาก facebook : hugsinsurance
คอนเทนต์ลักษณะนี้เมื่อทำออกไปแล้ว หากผู้อ่านรู้ว่ามีประโยชน์ เป็นสาระดี ๆ มักแชร์ต่อเสมอ (Make them look good) เพราะมันสะท้อนตัวตนผู้แชร์ได้ว่าแชร์แต่เรื่องมีประโยชน์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ผู้แชร์ได้อีกทางหนึ่ง
4. Must be Trustable
ทำคอนเทนต์ที่น่าเชื่อถือ ไม่ fake อันนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญมาก ความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้เขียนจึงต้องใส่ใจมาก ๆ เช่น หากทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการเงิน การออม การลงทุน แต่ใส่ตัวเลขผิด สะกดคำผิดเยอะ ๆ ก็อาจสร้างความไม่น่าเชื่อถือ หรือแชร์เคล็ดลับต่าง ๆ ที่บอกต่อ ๆ กันมา แต่เมื่อทำแล้วกลับเป็นอันตรายกับผู้อ่าน
ขอบคุณภาพจาก facebook : Haiter Thailand
ปัจจุบันผู้อ่านมีคอนเทนต์ให้อ่านหรือเสพมากมาย เขาสามารถเลือกหรือพิจารณาเนื้อหาข้อมูลเองได้ หากเราทำข้อมูลที่ไม่แม่นเนื้อหา ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ที่มีฐานข้อมูลชัดเจน สุดท้ายเขามีสิทธ์เลือกที่จะเลิกติดตามอ่านต่อ
5. Human touch & Emotional
ทำคอนเทนต์ให้มีอารมร์ร่วม หรือผู้อ่านมีส่วนร่วมด้วย เช่น คอนเทนต์ที่ทำให้เขาอ่านแล้วมีความสุข เช่น การช่วยเหลือสุนัข แมว เราต้องแตะให้ถึงอารมณ์ผู้อ่านเช่น ความรัก ความโกรธ ความกลัว
ขอบคุณภาพจาก facebook : I’m from Andromeda
ตัวอย่างเช่น คนเรามีความกลัวอยู่แล้ว กลัวจน กลัวไม่มีเงิน กลัวป่วย กลัวตกงาน กลัวคนรักคนในครอบครัวเจ็บป่วย ส่วนจะทำคอนเทนต์สื่อไปทางอารมณ์ไหน ขึ้นอยู่กับเราจะออกแบบเพื่อให้สัมพันธ์กับแบรนด์หรือเป้าหมายธุรกิจของเรา
6. Up to date and Intrend
ทำคอนเทนต์ที่อินเทรนด์ อยู่ในกระแส Real-time หรือ Viral ซึ่งในแต่แบรนด์สามารถใส่ไอเดียสร้างสรรค์ให้สัมพันธ์กับแบรนด์ธุรกิจของตัวเองได้ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ อยู่ในสายตาผู้อ่าน ช่วยให้เป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ได้
ขอบคุณภาพจาก facebook : Bar B Q Plaza
สิ่งสำคัญของการทำคอนเทนต์ลักษณะนี้คือ ต้องเร็ว เหมาะสม (อย่าเลือกประเด็นที่เป็นแง่ลบ เพศ ศาสนา เชื้อชาติ ฐานะทางสังคม) และถูกต้อง แต่ต้องบอกก่อนว่าการทำคอนเทนต์อาจะไม่ยังยืน คนจะสนใจในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น
7. Right Contents Right Time
ถูกที่ถูกเวลา ต้องอัพเดทบ่อย ๆ ว่าเดี๋ยวนี้คนอ่านนิยมเสพสื่อหรือใช้โซเชียลตอนไหน เช่น ปัจจุบันคนไทยเล่น facebook มากทีสุดตอน 1-2 ทุ่ม /ช่วง 8 โมงเช้า ดังนั้นเวลาเราจะปล่อยคอนเทนต์ ก็อาจจะต้องคำนึงถึงเวลาร่วมด้วย
หากลองสังเกตดี ๆ คนไทยจะเสพสาระในช่วงเช้า ทั้งข่าว เศรษฐกิจ การเมือง ทริคดี ๆ ทำงานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เป็นต้น พอช่วงเย็นคนจะอยากอ่านความบันเทิง ขำขัน คงไม่มีอยากอ่านคอนเทนต์เกี่ยวกับการทำงาน เพราะเลิกงานแล้วอยากผ่อนคลายบ้าง
นอกจากนี้อย่าหมารวมคอนเทนต์เดียวและใช้กับทุกแพลตฟอร์ม คอนเทนต์ประเภทข่าวสารอ่านต่ออาจจะเหมาะกับ Facebook ถ้าเป็นข่าวสั้น ๆ อาจจะเหมาะกับ Twitter หรือภาพสวย ๆ อาจจะเหมาะกับ Instagram ดังนั้นต้องลงคอนเทนต์ให้เหมาะสมด้วย
8. Motivation Marketing
การทำคอนเทนต์ที่ดีคือต้องจูงใจผู้ที่เราต้องการสื่อสารออกมาได้ ดังนั้นถ้าเราเข้าใจหลักการทำ Motivation Marketing จะช่วยให้คุณสามารถทำคอนเทนต์ได้ตรงใจผู้อ่านอย่างมาก เนื่องจากเรารู้ว่าจุดไหนเราควรจี้ จุดไหนเราควรโน้มน้าม หรือ การใช้คอนเทนต์ในการจูงใจให้เขาทำอะไรบางอย่าง โดยศาสตร์นี้ผมแนะนำหนังสือเล่มนึงซึ่งดีมากๆคือ "การตลาดขั้นเทพ" ชื่ออาจจะดูธรรมดาแต่ถ้าซื้อมาแล้ว ผมการันตีเลยว่าการทำคอนเทนต์คุณจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป
มาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนอาจจะยังมีข้อสงสัย ทั้ง 8 กลยุทธ์เขียนคอนเทนต์ที่กล่าวมานั้นจะสามารถช่วยให้ขายของได้หรือไม่ คำตอบคือได้ แม้จะไม่ใช่คอนเทนต์ขายของโดยตรง
เพราะเรารู้ดีว่าเป้าหมายหลักของคนที่ทำธุรกิจ แล้วกระโดดลงมาทำคอนเทนต์ก็มุ่งหวังที่จะขายของด้วยกันทั้งนั้น ถ้าจะให้ทำคอนเทนต์เพื่อเน้นสร้างแบรนด์อย่างเดียว คนคลิกเยอะ ไลค์เยอะ แชร์เยอะ แต่ไม่ซื้อ ธุรกิจก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ส่วนคอนเทนต์ที่ทำเพื่อขายของโดยตรงเป็นอย่างไร เรามีตัวอย่างให้ชมดังนี้
ตัวอย่างคอนเทนต์ขายของ
เพื่อให้ได้ยอดขายอย่างที่ต้องการ และเพื่อปิดการขายด้วยการใช้บทความ การเขียนคอนเทนต์ที่จะกระตุ้นให้คนอ่านกลายมาเป็นลูกค้าและอยากที่จะซื้อของของเรา คอนเทนต์ขายของจะประกอบด้วย 3 เทคนิคดังนี้
เทคนิคที่ 1 ชูจุดเด่น ความสามารถของสินค้าและบริการ
ต้องทำให้ผู้อ่านหรือกลุ่มเป้าหมายของเรา เห็นภาพชัดเจนว่า สินค้าและบริการของเราดีอย่างไร ช่วยให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้อย่างไร สร้างความรู้สึกว่าไม่มีไม่ได้โดยใช้ศาสตร์ Copywriting คือ ทำอย่างไรให้เห็นแล้วรู้เลยว่าเรามีอะไรดี บอกได้ตรง ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ทันที ว่ามันเกี่ยวกับเขามันเป็นปัญหาของเขาโดยตรง
ขอบคุณภาพจาก www.nakizthailand.com
เทคนิคที่ 2 บอกเล่ารายละเอียด จุดเด่นให้ครบถ้วน
เขียนคอนเทนต์ที่พูดถึงตัวเอง ควรเล่าเรื่องของแบรนด์ด้วยคุณสมบัติที่มีอยู่จริง จับต้องได้ ช่วยอะไรได้บ้าง มีส่วนประกอบอะไรบ้าง เหมาะกับใคร เมื่อซื้อไปแล้ว ใช้ไปแล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร การดูแลหลังการขายที่มีให้ ใส่รายละเอียดให้ครบถ้วน เพื่อให้ผู้ใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิง หากต้องการเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นที่เป็นคู่แข่งของคุณ ที่ลืมไม่ได้คือ มี Call to Action อยู่ในคอนเทนต์เสมอ
ขอบคุณภาพจาก facebook : Kiehl's
เทคนิคที่ 3 เขียนคอนเทนต์ขายของด้วยภาษา สำนวนแบบพวกเดียวกัน
คอนเทนค์ที่จะปิดการขายได้ ต้องมีความเข้าใจผู้อ่านหรือผู้บริโภคเป็นพื้นฐาน สร้างสัมพันธ์ระหว่างคนขายและคนถูกขาย สร้างความไว้วางใจ เพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่าเรากับกำลังสื่อสารกับเขาโดยตรง
ขอบคุณภาพจาก facebook : KFC
สรุปการทำคอนเทนต์
การทำ CONTENT ที่ดีคือ คอนเทนต์ที่สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ตอบโจทย์ผู้อ่านได้อย่างตรงใจ ถูกที่ถูกเวลา ทั้งหมดทั้งมวลดูจะเป็นเรื่อง่าย ก็ไม่ง่ายเสียทีเดียว เพราะกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มก็อาจจะมี CONTENT ที่โดนใจไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นให้เริ่มต้นจากลงมือทำ ลองผิดลองถูก อาศัยการฝึกฝนในระดับหนึ่ง ถ้าตั้งใจทำคอนเทนต์ที่ดีมีคุณค่า ผู้อ่านก็จะเห็นเอง
KingCopywriting แนะนำ... 👇👇👇